ตำรวจไทแคค รุดช่วยเหยื่อ เสี่ยรีสอร์ทบุรีรัมย์ บังคับค้ากามขัดดอก !

จากกรณี เสี่ยเจ้าของรีสอร์ทบังคับเหยื่อ ม.3 ค้ากามขัดดอกเงิน 6,300 บาท ที่เคยยืมไปรักษาย่าวัย 70 ปี

เหยื่อต้องจำนนทำตาม ด้วยกลัวเสี่ยประจาน แต่ค้ากามไปถึง 4 ครั้ง ยอดเงินที่ยืมก็ไม่ลด ทนไม่ไหวไม่อยากรองรับตัณหาอีกต่อไป ตัดสินบอกแม่เลี้ยง!

ตกนรกทั้งเป็น! นักเรียนหญิง ม.3 ถูกบังคับขายบริการขัดดอก

ล่าสุดวันนี้ (25 เม.ย. 65) บุรีรัมย์ ชุดปฏิบัติการปราบปรามการล่วงละเมิดทางเพศต่อเด็กทางอินเทอร์เน็ต สำนักงานตำรวจแห่งชาติ หรือ ตำรวจไทแคค (TICAC) พร้อมตำรวจจากกองบังคับการปราบปรามการค้ามนุษย์ (ปคม.), เจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.บุรีรัมย์ , บ้านพักเด็กและครอบครัว จ.บุรีรัมย์ และตำรวจ สภ.ละหานทราย รุดช่วยเหยื่อ ม.3 พาตัวเข้าแจ้งความแล้ว

โดย TICAC และอีกหลายหน่วยงานได้พาผู้ปกครองและน้องผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์กับ ร.ต.อ.อนุสรณ์ ศรีพรม รองสารวัตร (สอบสวน) สภ.ละหานทราย ซึ่งทั้งผู้ปกครองและเด็กก็ยังรู้สึกกังวลถึงความไม่ปลอดภัย เพราะเสี่ยเจ้าของรีสอร์ทเป็นคนมีอิทธิพลในพื้นที่ ทั้งอ้างว่ารู้จักตำรวจด้วย ถึงขั้นไม่กล้าอยู่ที่บ้านต้องไปอาศัยอยู่ข้างนอกชั่วคราว

ขณะที่ น.ส.เอ (นามสมมติ) ผู้เสียหาย บอกว่าหลังจากแจ้งความร้องทุกข์แล้ว ก็เป็นห่วงเรื่องปลอดภัยทั้งของตัวเอง และปู่กับย่า เพราะเสี่ยรู้จักบ้านของตัวเอง จึงกลัวว่าจะส่งคนไปทำอะไรปู่กับย่า ก็อยากฝากให้ตำรวจช่วยดูแลความปลอดภัยให้ที่บ้านด้วย

น.ส.เอ เล่าทั้งน้ำตาว่าสิ่งที่เกิดขึ้นทำให้กลัวและรู้สึกอาย เพราะยังต้องเรียนหนังสืออยู่ จึงอยากให้หน่วยงานเข้ามาช่วยเหลือให้หลุดพ้นจากสิ่งที่เกิดขึ้นกับตน และอยากให้เจ้าหน้าที่ดำเนินคดีกับเสี่ยตามกฎหมายให้ถึงที่สุด

น.ส.เอ เล่าถึงพฤติกรรมของเสี่ยด้วยว่า ทุกครั้งที่บังคับให้รับแขกจะยึดโทรศัพท์เอาไว้ ไม่ให้เอาเข้าไปในห้องด้วย และทุกครั้งที่ตนต้องจำใจรับแขกก็จะร้องไห้ทุกครั้ง ส่วนเงินที่แขกจ่ายให้ครั้งละ 1,500 บาท เสี่ยก็จะหักค่าห้อง 300 บาท หักค่าเปอร์เซ็นต์อีก 1,000 บาท เหลือ 200 บาท ก็ให้เธอ แต่ถึงแม้เธอถูกบังคับรับแขกไปถึง 4 ครั้ง หนี้ที่เธอยืมไปรักษาย่าเมื่อครั้งที่ย่าป่วยก็ยังเหลือ 6,300 เท่าเดิม!

ด้านนายเอ็ม (นามสมมติ) ญาติของแม่เลี้ยง น.ส.เอ เล่าว่า ครั้งล่าสุดที่แม่เลี้ยงเริ่มเห็นว่าน้องเอ มีอาการตาแดงเหมือนคนร้องไห้ และซึมๆ แบบผิดปกติ คือวันที่น้องเอขออนุญาตไปธุระข้างนอกตอนกลางคืนประมาณ 2 – 3 ทุ่มแต่จำวันที่ไม่ได้ ทางแม่เลี้ยงก็บอกให้ลองขับรถตามไปดูว่าน้องมีปัญหาอะไรหรือไม่ เพราะดูท่าทางผิดปกติ พอขับรถตามไปก็พบว่าน้องได้ขับ จยย.เลี้ยวเข้ารีสอร์ทแห่งหนึ่ง พอน้องกลับมาจึงถามว่าไปทำอะไรมา น้องก็ยอมเล่าทุกอย่างให้ฟัง ตนได้ฟังก็สงสารน้องที่ต้องมาเจอเหตุการณ์แบบนี้ ก็อยากให้ดำเนินคดีกับคนที่ทำกับน้องตามกฎหมาย

เบื้องต้นหลังผู้เสียหายเข้าแจ้งความร้องทุกข์ ทางพนักงานสอบสวนก็จะประสานทีมสหวิชาชีพนัดสอบปากคำผู้เสียหายอีกครั้ง พร้อมทั้งจะได้พาผู้เสียหายไปชี้จุดเกิดเหตุเพื่อประกอบสำนวนคดี หลังจากนั้นจะรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อออกหมายจับผู้กระทำผิดตามขั้นตอน

ซึ่งหากเสี่ยเจ้าของรีสอร์ทกระทำผิดจริงตามที่ผู้เสียหายให้ข้อมูล ก็จะเข้าข่ายความผิดฐาน กระทำอนาจาร พยายามข่มขืนกระทำชำเรา และเป็นธุระจัดหา