เมื่อวันเสาร์ที่ 3 ธ.ค.65 เวลา 17.00 น. นายเอกภพ เหลืองประเสริฐ เจ้าของเพจสายไหมต้องรอด พร้อมทีมงาน ได้เดินทางลงพื้นที่ไปยังห้องเช่าภายใน ซ.โต๊ะกู 1 ถ.สุวินทวงศ์ แขวงลำผักชี เขตหนองจอก
ภายหลังได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากพลเมืองดี ว่าพบเห็น สาวอายุ 28 ปี ถูก พ่อแท้ๆล่ามโซ่ และทำร้ายร่างกาย
เมื่อ ทีมสายไหมต้องรอด ไปถึงห้องเช่าหลังดังกล่าว ได้พบ สาววัย 28 อยู่ในสภาพอิดโรย ใบหน้าเขียวช้ำ ปากแตก ที่ข้อเท้าข้างซ้ายถูกล่ามด้วยโซ่ขนาดใหญ่ จึงเข้าไปให้การช่วยเหลือ
เธอ เล่าว่า คนที่ล่ามโซ่ขังเธอคือ พ่อแท้ๆ เพราะพ่อไม่ต้องการให้เธอมีแฟนใหม่ หลังจาก 6 เดือนก่อน เธอเลิกกับสามีที่คบกันมา 9 ปี และมีลูกด้วยกัน 2 คน เนื่องจากชอบด่าว่าด้วยคำพูดที่หยาบคายและรุนแรงต่อหน้าคนอื่นเสมอ
เวลาสามีไปเที่ยวผู้หญิงก็จะกลับมาเล่าให้เพื่อนๆที่ทำงานฟังอย่างสนุกสนาน พอเพื่อนที่ทำงานได้ยินก็จะบอกบอกกับเธอ ซึ่งเธอรู้สึกเสียใจมาก
ตอนที่ท้องลูกคนเล็ก สามีก็แอบไปคบหาและมีอะไรกับเพื่อนข้างห้อง ทำให้ตัดสินใจแยกทางกับสามี
แต่พ่อเป็นคนหัวโบราณ บอกว่า เป็นผู้หญิงเมื่อแต่งงานมีลูกมีผัวแล้วต้องอดทน ก้มหน้าก้มตาเลี้ยงลูกไป
หากเลิกกับสามีจะทำให้ พ่อ แม่ ถูกชาวบ้านติฉินนินทาเอาได้ เธอเลยกลับมาอยู่กับสามีได้แต่อดทนเก็บความช้ำใจเรื่อยมา จนกระทั้งเมื่อ 6 เดือนก่อน
ความอดทนหมดแล้วจึงขอหย่าขาดกับสามี แต่สามีไม่ยอมเซ็นใบหย่าให้ เธอจึงออกไปเช่าห้องอยู่ตามลำพัง แรกๆ สามีก็ไม่มีท่าทีจะมาตามง้อขอคืนดี เพราะสามีก็มีผู้หญิงอื่นมาติดพันอยู่ตลอด
จนกระทั้งประมาณ 2 เดือนที่ผ่านมา เธอเริ่มได้คุยกับเพื่อนชายคนหนึ่ง พออดีตสามีรู้ จึงมาดักตามง้อขอคืนดี แต่เธอปฏิเสธ
เมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา อดีตสามีจึงไปตามพ่อของเธอ ให้มาบังคับพาเธอกลับไปอยู่ด้วย พ่อก็ไม่ฟังเธอ บอกเพียงให้กลับไปอยู่กับอดีตสามี
เมื่อเธอปฏิเสธ พ่อก็ตบหน้าหลายครั้งและลากกลับมาที่บ้าน
เมื่อมาถึงก็ล่ามโซ่ เพื่อรอให้อดีตสามีมารับกลับไปอยู่ด้วยอีกครั้ง
เมื่อพ่อไม่อยู่ เธอจึงตัดสินใจร้องขอความช่วยเหลือไปยังเพื่อน
ทางเพจสายไหมต้องรอด ได้แจ้งให้พ่อของ สาววัย 28 ทราบว่าการกระทำดังกล่าวมีความผิดตามกฎหมาย และให้การช่วยเหลือสาววัย 28 ออกจากห้องดังกล่าวได้แล้ว