
วันนี้ (2 ก.ค.68) ศาสตราจารย์คลินิก นพ.สรณ บุญใบชัยพฤกษ์ ประธานกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (ประธาน กสทช.) เปิดเผยว่า ที่ประชุม กสทช. เลื่อนการพิจารณารับรองผลการประมูลคลื่นความถี่ย่าน 850 MHz 1500 MHz 2100 MHz และ 2300 MHz เมื่อวันที่ 29 มิ.ย.68 จากเดิมที่กำหนดไว้ในวันนี้ ไปเป็นวันที่ 6 ก.ค.68 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของกรอบเวลาตามระเบียบที่กำหนดให้ต้องรับรองผลภายใน 7 วันหลังจากการประมูลสิ้นสุดลง
พล.อ.ท.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการกระจายเสียง กล่าวว่า การรับรองผลการประมูลดังกล่าวถือเป็นคำสั่งทางปกครอง ซึ่งควรดำเนินการตามหลักเกณฑ์ที่ชัดเจนและเป็นธรรม แต่กลับพบว่ากระบวนการพิจารณาครั้งนี้มีปัญหาเรื่องเวลาที่ไม่เพียงพอและการได้รับเอกสารล่าช้า
แม้การประมูลจะเริ่มตั้งแต่วันที่ 29 มิ.ย.68 และสามารถพิจารณาผลได้ถึงวันที่ 6 ก.ค.68 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของกรอบเวลาทางปกครอง แต่เพิ่งได้รับเอกสารประกอบการพิจารณาเมื่อวันที่ 1 ก.ค.68 เวลา 16.30 น. ทั้งที่เอกสารมีจำนวนมากและจำเป็นต้องใช้เวลาในการตรวจสอบความชอบด้วยกฎหมายและข้อเท็จจริง การส่งเอกสารล่าช้าจึงถือเป็นอุปสรรคสำคัญที่ทำให้ไม่สามารถพิจารณาได้อย่างรอบด้าน ส่งผลกระทบต่อกระบวนการมีส่วนร่วมในการออกคำสั่งทางปกครอง ซึ่งควรเป็นไปโดยสุจริตและเป็นธรรม
ทั้งนี้ ตามหลักกฎหมายปกครอง ผู้ออกคำสั่งทางปกครองมีสิทธิโดยชอบที่จะได้รับข้อมูลที่ถูกต้องและครบถ้วน มีเวลาพอสมควรในการพิจารณา และต้องปฏิบัติหน้าที่อย่างเป็นกลาง การออกคำสั่งที่มีผลกระทบทางกฎหมายโดยปราศจากการพิจารณาอย่างรอบคอบย่อมกระทบต่อความชอบธรรมและอาจนำไปสู่ข้อผิดพลาดได้
นอกจากนี้ กรณีดังกล่าวยังเกี่ยวพันกับสิทธิตามตามพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) วิธีปฏิบัติราชการทางปกครอง พ.ศ.2539 ซึ่งบัญญัติให้ผู้มีอำนาจในการออกคำสั่งต้องแจ้งผลกระทบต่อสิทธิ (มาตรา 30) เปิดโอกาสให้ตรวจสอบเอกสารราชการ (มาตรา 31 และ 32) และต้องเปิดเผยเหตุผลของคำสั่งที่ออก (มาตรา 37) การดำเนินการที่ขาดความรอบคอบทั้งในแง่ข้อมูล เวลา และกระบวนการ อาจถือเป็นการละเมิดหลัก กระบวนการที่เป็นธรรม หรือ Fair Administrative Process ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการบริหารราชการแผ่นดิน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ประชุมคณะกรรมการกสทช. เมื่อมีการนำเข้าสู่วาระประชุม กรรมการทั้ง 7 เห็นพ้องต้องกันว่า ให้เลื่อนการพิจารณารับรองผลการประมูลไปในวันอาทิตย์ ที่ 6 ก.ค.68 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายที่สามารถรับรองผลได้ (7 วันหลังการประมูล)
สาเหตุที่เลื่อนการประมูลเนื่องจาก เอกสารประกอบการพิจารณาผลประมูล ความเห็นของที่ปรึกษา เพิ่งจะมีถึงมือกรรมการ กสทช. ในตอนเช้าก่อนประชุม จึงไม่สามารถพิจารณาได้ทัน นอกจากนี้ กรรมการบางท่าน ยังแสดงข้อกังวลว่าอยากให้มีการรวมถึงข้อร้องเรียนจากภาคประชาชน และเอกสารอื่นๆ เพิ่มเติมด้วย