(วันนี้ 2 ก.ค.68) โครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568” ที่เปิดให้ประชาชน ใช้สิทธิ์จองที่พักเริ่มต้นเมื่อวันที่ 1 กรกฎาคมที่ผ่านมา กำลังเผชิญปัญหาระลอกใหญ่ ไม่ใช่แค่จากฝั่งผู้ใช้ แต่ฝั่งผู้ประกอบการโรงแรมก็ประสบปัญหาไม่ต่างกัน โรงแรมหลายแห่งทั่วประเทศทยอยออกประกาศ “ปิดรับจองชั่วคราว” หลังพบว่าไม่สามารถดำเนินการจองผ่านระบบได้ เนื่องจากปัญหาทางเทคนิคที่ยังไม่ได้รับการแก้ไขจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
โรงแรมอมารี หัวหิน ระบุว่า “ขอขอบคุณลูกค้าทุกท่านที่ให้ความสนใจในการจองห้องพัก ผ่านโครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ในขณะนี้ทาง #อมารีหัวหิน ไม่สามารถรับจองได้ชั่วคราว เนื่องจากเกิดปัญหาความไม่สอดคล้องของราคาระหว่างข้อมูลที่ทางโรงแรมได้แจ้งไป ยังระบบโครงการกับราคาที่แสดงในระบบจริง” โรงแรมแจ้งว่าได้ส่งเรื่องไปยังผู้ดูแลโครงการแล้ว แต่ยังไม่ได้รับการติดต่อกลับ หรือการแก้ไขปัญหาอย่างเป็นทางการ
โรงแรม Thames Valley Khao Yai โพสต์ว่า “โรงแรม Thames Valley Khao Yai ได้ลงทะเบียน ‘เที่ยวไทยคนละครึ่ง’ แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างรอการพิจารณาในระบบจากทาง Amazing Thailand หากได้รับการยืนยันจากทางระบบ จะรีบเปิดรับการจองทันที” โดยระหว่างนี้ยังไม่สามารถรับจองสิทธิได้ และยังไม่มีระยะเวลาที่ชัดเจนว่าจะอนุมัติเมื่อไร
ทอสกานา วัลเล่ เขาใหญ่ โพสต์ชัดเจนว่า “ขออนุญาต ‘ปิดรับ’ การจองสำหรับโครงการ ‘เที่ยวไทยคนละครึ่ง’ เป็นการชั่วคราว เนื่องจากระบบแอปพลิเคชัน Amazing Thailand ฝั่งผู้ประกอบการไม่สามารถดำเนินการจนแล้วเสร็จได้”
“ระบบขึ้นแจ้งเตือนและไม่ให้ไปยังขั้นตอนถัดไป จึงยังไม่สามารถเปิดการจองแบบใช้สิทธิ์โครงการได้” ทางโรงแรมแจ้งว่าทดสอบระบบอย่างต่อเนื่อง และจะเปิดให้จองทันทีเมื่อระบบสามารถทำงานได้อย่างสมบูรณ์
จากการรวบรวมข้อมูล ปัญหาที่เกิดขึ้นในฝั่งผู้ประกอบการมีตั้งแต่ ระบบแอปไม่เสถียร เข้าใช้งานไม่ได้ รอการอนุมัตินานผิดปกติ ข้อมูลวันจองไม่ตรง ระบบแสดงราคาผิดจากที่แจ้งจริง ไปจนถึงเงื่อนไขในระบบที่ให้ใส่ “ราคาเดียว” สำหรับวันธรรมดาและวันหยุด ซึ่งกระทบต่อการตั้งราคาตามกลไกปกติของอุตสาหกรรมโรงแรมที่ส่วนใหญ่มักใช้เรตราคาแบบไดนามิก
นอกจากนี้ ระบบยังไม่อนุญาตให้แก้ไขราคาได้หลังจากลงทะเบียนแล้ว ซึ่งทำให้ผู้ประกอบการหลายรายต้องตั้งราคาสูงเผื่อวันศุกร์-เสาร์ ส่งผลให้ราคาที่แสดงในโครงการสูงกว่าราคาที่จองผ่าน OTA (แพลตฟอร์มจองโรงแรมทั่วไป) และกลายเป็นข้อเปรียบเทียบที่ทำให้ลูกค้าตั้งคำถามถึงความคุ้มค่าของการใช้สิทธิ์
ขณะที่ฝ่ายประชาชนผู้ใช้สิทธิ์ก็เผชิญปัญหาเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นแอปล่ม เข้าจองไม่ได้ จองแล้วระบบไม่ยืนยัน OTP ไม่ส่ง จนเกิดความสับสนและผิดหวังอย่างกว้างขวางในวันแรกที่ควรเป็นวันแห่งความหวังของทั้งประเทศ แต่ระบบเองกลับไม่พร้อม
ขณะนี้ ททท. ระบุว่า มีผู้ประกอบการผ่านระบบเที่ยวไทยคนละครึ่ง 2568 แล้วจำนวน 2,943 ราย
แบ่งเป็น
- โรงแรม 1,928 แห่ง
- รถเช่า เรือเช่า 32 ราย
- สปา 34 ราย
- แหล่งท่องเที่ยว 35 ราย
โรงแรมที่อยู่ในระบบและพร้อมให้จองแล้ว อาทิ
- กรุงเทพฯ : Sofitel Bangkok Sukhumvit, Hotel Indigo Bangkok
- เชียงใหม่ : InterContinental Chiang Mai The Mae Ping
- หัวหิน : Sheraton Hua Hin, So Sofitel Hua Hin, InterContinental Hua Hin
- ภูเก็ต : Sri Panwa Phuket, La Vela Khao Lak
- พัทยา : Mövenpick Pattaya, Ana Anan Resort
- เขาใหญ่ : Mövenpick Resort Khao Yai, InterContinental Khao Yai
- รวมถึงเครือ Centara Hotels & Resorts กว่า 42 แห่งทั่วประเทศ
โครงการ “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” ที่ควรจะเป็นกลไกกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวในช่วงนอกฤดูกาล กลับเริ่มต้นอย่างล้มลุกคลุกคลาน ฝั่งประชาชนเจอปัญหาใช้งานไม่ได้ ฝั่งโรงแรมก็ประสบปัญหาทางระบบและข้อจำกัดเชิงโครงสร้างของโครงการ
หากปัญหาเหล่านี้ไม่ถูกแก้ไขโดยเร็ว ความหวังที่จะฟื้นฟูการท่องเที่ยวผ่านโครงการภาครัฐ อาจกลายเป็นความล้มเหลวที่ส่งผลทั้งต่อผู้ประกอบการ นักท่องเที่ยว และภาพลักษณ์ของการบริหารจัดการภาครัฐเอง