
นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รมช.คลัง เปิดเผยถึงกระแสข่าว ผู้ให้บริการสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ หรือ ธุรกิจการปล่อยสินเชื่อรายย่อยระดับจังหวัด ปิดกิจการและคืนใบอนุญาตกระทรวงการคลังกว่า 104 ราย เนื่องจาก มีหนี้เสียจำนวนมากนั้น ขณะนี้ ได้สั่งการให้กระทรวงการคลังพิจารณาตัวเลขการปิดการดังกล่าว รวมทั้งข้อมูลการอนุญาตให้ผู้ประกอบการรายใหม่เข้ามาด้วย ซึ่งจำนวนที่ขอปิดกิจการ 104 รายนั้น จะต้องดูว่ามีบริษัทใหม่เข้าขอเปิดกิจการใหม่อีกกี่ราย แล้วบวก-ลบกัน ไม่ใช่มองว่า มีปิดกิจกรรมกี่แห่งเพียงอย่างเดียว
“จริงๆ สถานการณ์หนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) ไม่ได้สูงอย่างมีนัยสำคัญ ส่วนจำนวนตัวเลขการเข้า และออกจากธุรกิจพิโกไฟแนนซ์ มีผู้ให้บริการเข้าๆ ออกๆ อยู่เสมอ จากการรายงานของสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง หรือ สศค. แต่ที่มีกระแสข่าวออกมา เป็นเพียงการรายงานข้อมูลขาออกอย่างเดียว แต่ไม่ได้พูดถึงขาเข้า ซึ่งจะต้องนำข้อมูลทั้ง 2 ฝั่ง มาเปรียบเทียบกัน กระทรวงการคลังกำลังประมวลข้อมูลอยู่”
นอจากนี้ กระทรวงการคลังกำลังอยู่ระหว่างแก้ไขกฎระเบียนใหม่ให้แก่พิโกไฟแนนซ์ จากเดิมที่ปล่อยกู้ภายในจังหวัดที่ได้รับอนุญาตเท่านั้น แต่ระเบียบใหม่ จะคลอบคลุมถึงจังหวัดที่อยู่ติดกันด้วย เพื่อให้เกิดความสะดวกทั้งส่วนของผู้กู้และผู้ให้กู้ ส่วนจะขยายการให้บริการสินเชื่อผ่านโทรศัพท์มือถือได้หรือไม่ ก็อยู่ระหว่างพิจารณาข้อดีข้อเสียในเรื่องดังกล่าวเช่นเดียวกัน
“ตอนนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเห็นตรงกันแล้วว่า การให้บริการสินเชื่อพิโกไฟแนนซ์ข้ามจังหวัดเป็นเรื่องที่จำเป็นและสำคัญ เพราะสามารถแก้ไขหนี้นอกระบบได้ กระทรวงการคลังจึงได้พัฒนาและปรับปรุงให้ดีขึ้น ซึ่งที่ผ่านมา ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ก็ไม่มีข้อขัดข้องในเรื่องนี้ เพื่อให้เกิดการกระจายพิโกไฟแนนซ์มากยิ่งขึ้น”