เอกชน หวังมีสันติภาพ “ไทย” ยึดมนุษยธรรม แม้ไม่ไว้ใจ “กัมพูชา”

“เอกชน” ยินดีบรรลุข้อตกลงชายแดน “หยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไข” อยากเห็นสันติภาพ ย้ำ “ไทย” ยึดหลักมนุษยธรรม-จริงใจ แม้ไม่ไว้ใจ “กัมพูชา” หวังใช้สันติวิธีเป็น “ทางออก”

วันนี้ (29 ก.ค.68) ดร.พจน์ อร่ามวัฒนานนท์ ประธานกรรมการ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ขอแสดงความยินดีอย่างยิ่งต่อการที่รัฐบาลไทยและรัฐบาลกัมพูชาสามารถบรรลุข้อตกลง “หยุดยิงโดยไม่มีเงื่อนไข” ซึ่งจะมีผลตั้งแต่เวลาเที่ยงคืนของวันที่ 28 ก.ค.68

ดร.พจน์กล่าวว่า ความคืบหน้าดังกล่าวนับเป็นก้าวที่สำคัญยิ่งในการคลี่คลายสถานการณ์ตึงเครียด ส่งผลกระทบต่อความปลอดภัยของประชาชน และทรัพย์สินของทั้งสองประเทศ เชื่อมั่นว่าการเจรจานี้จะนำไปสู่การลดความสูญเสียในชีวิตและทรัพย์สิน และเปิดทางให้ทั้งสองประเทศเดินหน้าเข้าสู่การหารือในกรอบของความร่วมมือเพื่อสันติภาพ และการเคารพซึ่งกันและกันในด้านอธิปไตย

แม้ว่าจะยังมีความไม่ไว้วางใจและข้อกังวลจากฝ่ายกัมพูชาเกี่ยวกับการละเมิดข้อตกลงหยุดยิง แต่ภาคเอกชนไทยขอสนับสนุนให้ทุกฝ่ายใช้ความอดทน อดกลั้น และดำเนินการแก้ไขปัญหาด้วยสันติวิธี ภายใต้กลไกความร่วมมือของอาเซียน เพื่อหลีกเลี่ยงการปะทะซ้ำและความสูญเสียอันไม่จำเป็น

“เราเชื่อมั่นว่าการดำเนินการตามหลักสากล ยึดหลักมนุษยธรรม และสิทธิมนุษยชนอย่างจริงใจของประเทศไทย จะปรากฏชัดต่อนานาประเทศ และขอให้ทางกัมพูชาเคารพยึดข้อตกลงการหยุดยิงตามที่ได้แถลงร่วมกัน”ดร.พจน์กล่าว

ดร.พจน์กล่าวว่า ในนามของภาคเอกชนไทย ขอขอบคุณประเทศสหรัฐฯ ที่มีบทบาทสำคัญในการสนับสนุนให้เกิดการเปิดช่องทางการเจรจาระหว่างสองประเทศ และขอขอบคุณประเทศจีนที่ให้ความร่วมมือในฐานะผู้สังเกตการณ์ เพื่อส่งเสริมความโปร่งใสและความไว้วางใจระหว่างคู่เจรจา รวมถึงขอขอบคุณประเทศมาเลเซีย โดย นายอันวาร์ อิบราฮิม นายกรัฐมนตรีมาเลเชียที่ร่วมผลักดันและอำนวยความสะดวกต่อการหารือครั้งนี้

“เราหวังเป็นอย่างยิ่งว่าการหารือภายใต้กรอบคณะกรรมาธิการชายแดนทั่วไป (GBC) ซึ่งจะมีขึ้นในวันที่ 4 ส.ค.นี้ ณ ประเทศกัมพูชา จะเป็นอีกก้าวที่ช่วยเสริมสร้างความเข้าใจอันดีระหว่างสองประเทศ และนำไปสู่แนวทางแก้ไขอย่างยั่งยืนต่อปัญหาที่ค้างคา”ดร.พจน์กล่าว

ทั้งนี้ หอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ขอยืนหยัดเคียงข้างประชาชนไทย กองทัพไทย เพื่อร่วมกันสร้างสันติภาพ ความมั่นคง และการเติบโตทางเศรษฐกิจอย่างยั่งยืนต่อไป