CIMBT ชี้ 4 ทางเลือกอนาคต “การเมือง” ไม่ซ้ำเติมเศรษฐกิจทรุด

“CIMBT” มอง 4 ทางเลือกชี้ชะตาอนาคต “การเมือง” ไม่ซ้ำเติมเศรษฐกิจทรุด หลังเผชิญศึกนอก-ศึกในกระหน่ำ ชี้ “ยุบสภาฯ” ทำใจงบฯ สะดุด 9-12 เดือน ส่อกดจีดีพีโตต่ำ 1.8%

วันนี้ (20 มิ.ย.68) ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า ลองประเมินผลกระทบทางเศรษฐกิจจากปัญหาสเถียรภาพการเมือง ผมมองผลกระทบมี 3 ด้าน 1.ความเชื่อมั่นของนักลงทุนและผู้บริโภค โดยเฉพาะจากต่างชาติ 2.ด้านงบประมาณที่อาจล่าช้า

และ 3.การเจรจาการค้ากับสหรัฐและอาจกระทบการเจรจากับประเทศอื่นๆ โดยทำเป็น 4 ฉากทัศน์ บอกได้เลยว่าไม่มีตัวไหนดี ทุกตัวล้วนนำไปสูความเสี่ยงขาลงทางเศรษฐกิจ หรือเศรษฐกิจไทยเสี่ยงโตช้ากว่าที่เราคาดไว้ที่ 1.8% ในปีนี้

1. ยุบสภา เลือกตั้งใหม่ แม้น่าจะเป็นทางออกที่ผมมองว่าดีที่สุดต่อเศรษฐกิจในระยะกลาง เพราะจะสลายความไม่ชัดเจน ความไม่แน่นอน แต่ในระยะสั้นอาจกระทบเศรษฐกิจไทยแรงจากความล่าช้าในการออกงบประมาณ (โดยเฉพาะภาคก่อสร้างจะกระทบแรงสุดเพราะงบลงทุนโครงการใหม่จะหยุด ขณะที่การก่อสร้างเอกชนน่าทรุดยาวอยู่แล้ว)

เตือนว่างบประมาณอาจมาได้ราว 9 – 12 เดือนนับจากวันยุบสภา ขึ้นอยู่กับการรับรอง สส. การเลือกนายกฯ หากยุบวันนี้ งบน่ามาไตรมาสสองปีหน้า การเจรจากับทีมสหรัฐหยุดเพราะเขาน่ารอผู้มีอำนาจเต็มที่ ความเชื่อมั่นน่าทรงๆ คนก็ wait and see ต่อว่าใครจะเป็นรัฐบาล รอดูนโยบายกันใหม่

2. เปลี่ยนขั้ว หรือนายกฯ ลาออก จะจับมือพรรคฝ่ายค้าน หรือเสนอชื่อนายกจากพรรคร่วมเดิม รัฐบาลก็อยู่ได้ การบริหารทำได้ แม้ดูเหมือนเป็นทางเลือกที่ดีต่อเศรษฐกิจในระยะสั้น การขับเคลื่อนด้านงบประมาณทำได้ดีต่อเนื่อง แต่ต้องระวังว่า ความเชื่อมั่นอาจไม่กลับมาได้เร็ว คนยังระวังหรือระแวงการบริหารงาน เสถียรภาพอาจดีแต่เปราะบาง และที่จะไปเจรจากับสหรัฐจะทำให้เขาเชื่อมั่นได้มากน้อยเพียงไร

3. รัฐประหาร จริงๆ ไม่ควรเป็นหนึ่งในฉากทัศน์เลย และไม่ควรเกิดขึ้นอีก เพราะแม้จะใช้งบประมาณได้ แต่ส่วนอื่นๆจะย่ำแย่ในระยะยาว

4. นายกอยู่ต่อ ปรับพรรคร่วมให้ได้เสียงข้างมากเกินครึ่ง ซึ่งน่ากำลังเป็นความพยายามให้ออกมาทางนี้ แม้ดูจะดี ต่อเนื่อง แต่ยังต้องเผชิญวิกฤติศรัทธา และความเสี่ยงที่ศาลอาจตัดสินให้พ้นตำแหน่ง หากมีผู้ร้องเรียนว่าคลิปเสียงผิดต่อจริยธรรม หรือหากคนชอบความต่อเนื่อง อาจรอดูฉากทัศน์นี้จนสถานการณ์เปลี่ยน แล้วค่อยเลือกนายกคนใหม่ แบบฉากทัศน์ที่ 2 ก็ได้ เรียกว่าความไม่แน่นอนยาวขึ้น

เศรษฐกิจไทยเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน ด้านต่างประเทศเจอสงครามการค้า เฟด พรมแดนกัมพูชา ศึกในเจอปัญหาการเมือง กำลังซื้ออ่อนแอ ความเชื่อมั่นต่ำ เดิมเรามี เศรษฐกิจไทยกระทะเหล็ก Teflon Thailand ลื่นไหลไม่ติดกระทะ รอบนี้สาร Teflon จะยังมีประสิทธิภาพอยู่หรือไม่ต้องมาดูกัน

แต่หวังว่าจะไม่มีการประท้วงที่รุนแรงจนกระทบภาคการท่องเที่ยว ที่วันนี้นับว่าไม่ใช่เป็นเครื่องยนต์หลักขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยได้ดีเหมือนเดิมแล้ว และอาจย่ำแย่ไปอีก โดยเฉพาะหากลากยาวไปถึงเดือนตุลาคมที่จะเริ่ม high season