ศิริกัญญา เจอแล้ว! ต้นกำเนิดแจก เงินดิจิทัล 10,000 บาท มาจาก ‘ญี่ปุ่น’

เหมือนเป๊ะ! ‘ศิริกัญญา’ เจอแล้วต้นกำเนิดแจก เงินดิจิทัล 10,000 บาท มาจาก ‘ญี่ปุ่น’ วิจัยเมื่อ 24 ปีก่อน ได้ผลกระตุ้นเศรษฐกิจน้อย

โครงการเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท มีแววเลื่อนแจกเป็นไตรมาส 1 ปี 67 หลังจากวานนี้ (19 ต.ค.66) การประชุมคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการรอบที่ 2 ถูกยกเลิก เพราะรายละเอียด เช่น แหล่งเงินที่จะนำมาใช้ในโครงการ เงื่อนไขกลุ่มเป้าหมาย ยังไม่ได้ข้อสรุป และจะจัดการประชุมครั้งถัดไป ในวันที่ 24 ต.ค.66

ทำให้การประชุมคณะกรรมการนโยบายโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ซึ่งมี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เป็นประธาน ถูกเลื่อนออกไปไม่มีกำหนด

แต่เรื่องเดียวที่ชัดเจน จาก นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกะทรวงการคลัง ในฐานะประธานอนุกรรมการขับเคลื่อนโครงการเติมเงินดิจิทัล 10,000 บาทผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ระบุ คือ รัศมีการใช้จ่ายนั้นจะขยายเกิน 4 กิโลเมตรจากทะเบียนบ้านแน่นอน โดยมีทางเลือกเป็นตำบล อำเภอ และจังหวัด ตามทะเบียนบ้าน

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

เงินดิจิทัล 10,000 บาท มีแววเลื่อนแจกจาก ก.พ.67 เป็นไตรมาส 1/67 อดีตสมาชิกวุฒิสภา กทม. ค้านแจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท ได้ไม่คุ้มเสีย

เช่นนั้น ถัดมา น.ส.ศิริกัญญา ตันสกุล สส.บัญชีรายชื่อ รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ได้ทวีตข้อความ Sirikanya Tansakun ระบุว่า

เจอแล้ว! ต้นกำเนิด digital wallet มาจากประเทศญี่ปุ่น

วันก่อนคุณเผ่าภูมิแถลงว่า ใช้งานวิจัยตัวคูณของประเทศอื่นมาเทียบไม่ได้เพราะไม่เหมือนโครงการนี้ ที่ใส่เงื่อนไขใช้ในรัศมีจำกัด และใช้ได้ 6 เดือน เลยมีนักวิชาการส่งเปเปอร์มาให้

เปเปอร์นี้ทำวิจัยกรณีของญี่ปุ่นในปี 1999 ที่แจกคูปอง 2 หมื่นเยน 31 ล้านใบให้ครอบครัวที่มีบุตร และผู้สูงอายุ คูปองใช้ได้เฉพาะร้านค้าในชุมชนเท่านั้น และมีอายุ 6 เดือน เหมือนเป๊ะ!

ผลก็คือ ช่วยกระตุ้นการบริโภคสินค้ากึ่งคงทน (เสื้อผ้า เครื่องใช้ไฟฟ้าขนาดเล็ก) ได้ 0.1-0.2 เท่าของเงินที่ได้เท่านั้น และไม่มีผลช่วยกระตุ้นการซื้อสินค้าไม่คงทน (อาหาร น้ำมัน) หรือสินค้าบริการได้เลย

การจำกัดเวลาใช้จะมีผลก็ต่อเมื่อปกติคนซื้อของน้อยกว่านั้น แต่การใช้ให้หมดตามระยะเวลา ก็อาจไปลดการซื้อสินค้าในอนาคตอยู่ดี การจำกัดรัศมีการใช้จะมีผลก็ต่อเมื่อปกติคนซื้อของในชุมชนน้อยกว่านั้น ถ้าปกติใช้มากกว่าก็ไม่มีผล

เราไม่จำเป็นต้องเชื่องานวิจัยก็ได้ค่ะ แต่ก็ไม่ควรพูดเรื่อยโดยไม่มีข้อมูลมายืนยัน และถ้ายังดึงดันทำต่อ ก็ขอให้ตั้งโครงการประเมินผล เก็บข้อมูลก่อน-หลังโครงการ เปิดเผยให้ประชาชนรับรู้ และรับผิดรับชอบกับผลของโครงการที่จะเกิดขึ้นด้วยค่ะ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

นายกฯเศรษฐา สยบข่าวลือ-ตอบทุกข้อสงสัย แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท99 นักเศรษฐศาสตร์ ลุกฮือ-ค้านหัวชนฝา แจกเงินดิจิทัล 10,000 บาท
คลิปอีจันแนะนำ
ตอบดราม่า เงินดิจิทัล 10,000 บาท