สุดสงสาร ลุงคมสัน ไร้ที่อยู่ เพราะ บ้านทรุด วอน ปวีณา ช่วยรื้อถอน

อีจัน พา ลุงคมสัน เข้าขอความช่วยเหลือ มูลนิธิ ปวีณา หลังต้อง ไร้ที่อยู่ เพราะ บ้านทรุด อยู่ต่อไม่ได้

เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 66 ที่มูลนิธิปวีณาหงสกุลเพื่อเด็กและสตรี ทีมข่าวอีจัน พาคุณลุงคมสัน เข้าไปขอความช่วยเหลือ หลังจากที่บ้านของคุณลุงเกิดทรุด จนไม่สามารถอาศัยอยู่ได้

บ้านของคุณลุงคมสันนี้ อยู่ในบริเวณวัดไก่เตี้ย เขตตลิ่งชัน เป็นบ้านปูน 2 ชั้น และมีบ้านไม้หลังเล็กๆอยู่ติดกัน ที่บ้านปูนนั้น มีคุณแม่ของลุงคมสัน ซึ่งอายุ 94 ปีอาศัยอยู่กับพี่สาวคุณลุงและหลานๆ รวม 4 ชีวิต ส่วนตัวคุณลุงคมสัน อยู่ในบ้านไม้ที่ติดกันนั้น

วันเกิดเหตุเป็นวันที่ 5 ต.ค. 66 เวลาประมาณ 20.00 น. ขณะที่คนในบ้านกำลังใช้ชีวิตอยู่ตามปกติ ที่ชั้น 1 ของบ้านตึก จู่ๆก็มีเสียงปูนแตกดังลั่น พร้อมกับตัวบ้านด้านซ้ายทรุดลง ตัวอาคารเอียงมาพิงกับบ้านไม้ ทำให้ทั้งบ้านตึก ทั้งบ้านไม้ ไม่สามารถอาศัยอยู่ได้ ครอบครัวของคุณลุงทั้ง 6 ชีวิต แถมมีน้องแมวอีก 8 ตัว ต้องออกจากบ้านไปเช่าห้องอยู่ เพราะบ้านทั้ง 2 หลัง ไม่รู้จะทรุดลงมาเมื่อไหร่

อีจันลงพื้นที่เพื่อไปสำรวจสภาพบ้านของลุงคมสัน ก็ได้เห็นว่า ตัวตึกนั้น เอียงจากพื้นราวๆ 20 องศา พาดแปะอยู่กับบ้านไม้ ดูอันตรายมากกว่าคำบอกเล่าของคุณลุง ซึ่งลุงคมสันบอกว่า ตัวตึกทรุดลงมามากกว่าวันที่เกิดเหตุเยอะ และในบ้านก็ไม่สามารถเข้าไปขนย้ายของอะไรออกมาได้เลย ครั้งสุดท้ายที่เข้าไปนั้น มีเสียงปูนลั่น ปูนร้าว ดังอยู่เป็นระยะๆ เลยกลัวว่า หากเข้าไปขนของ บ้านอาจจะหล่นลงมาทั้งหมดเลยก็ได้

คุณลุงคมสันบอกว่า หลังเกิดเหตุก้ได้เดินทางไปยังสำนักงานเขตตลิ่งชัน เพื่อแจ้งเหตุที่เกิดขึ้นและจะขอความช่วยเหลือ ซึ่งทางเขตเองหลังจากทราบเรื่อง ก็ได้มีการส่งหนังสือแจ้งเตือน ห้ามเข้าไปในพื้นที่บ้าน เพราะเกรงจะเกิดอันตราย พร้อมทั้งให้เร่งทุบทำลายตัวตึก เพื่อไม่ให้ล้มลงไปมากกว่านี้ อีกทั้งด้านข้างของบ้านไม้ มีคันกั้นคลองอยู่ หากตัวอาคารล้มลงไปโดน แล้วเกิดความเสียหาย ทางเขตจำเป็นต้องดำเนินคดีทางกฎหมาย นอกจากนี้ ที่ดินที่คุณลุงปลูกบ้านอยู่ ก็เป็นที่ดินธรณีสงฆ์ ของวัดที่บ้านปลูกอยู่ ซึ่งทางวัดเองก็บอกชัดเจนว่า หากรื้อถอนออกไปแล้ว ทางวัดจะขอที่ดินผืนนี้คืน เพราะจะนำไปพัฒนาวัด สร้างถนนใหญ่ตัดเข้าวัด ทำให้เดหมือนลุงคมสัน อยู่ในสภาพ กลืนไม่เข้าคายไม่ออก ถ้ารื้อบ้าน วัดก็ยึดที่ ถ้าไม่รื้อก็โดนคดี

ในขณะที่ครอบครัวของคุณลุงเอง ก็ต้องย้ายออกจากบ้านชั่วคราว คุณลุงต้องไปเช่าบ้านอยู่ เพราะมีน้องแมวที่ต้องเลี้ยงดู แถมยังมีคุณแม่ที่อายุ 94 ปี ให้ต้องดูแล ส่งข้าวส่งน้ำ จะให้เช่าบ้านที่พอจะกว้างขวางหน่อยก็ไม่ได้ รายได้และเงินเก็บที่มีจำกัดจำเขี่ย ทำให้ไม่สามารถจะเพิ่มค่าใช้จ่ายไปมากกว่านี้ได้

อีจันพาคุณลุงคมสัน ไปขอความช่วยเหลือจากมูลนิธิปวีณาฯ เพื่อให้ช่วยแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นนี้ที พูดคุยกันอยู่ราวๆ 1 ชั่วโมง ก็ได้ข้อสรุปเบื้องต้น เรื่องของการคืนที่ดินให้วัด คุณลุงคมสันยอมรับได้ เพราะเข้าใจในเรื่องการพัฒนาวัด แต่ปัญหาก็คือ ตอนนี้ คุณลุงไม่มีเงินมากพอที่จะนำไปจ่ายค่ารื้อถอนอาคาร ซึ่งราคาก็จะอยู่ที่ประมาณ 6-7 หมื่นบาท คุณลุงเป็นเพียงลูกจ้างรายเดือน หาเช้ากินค่ำ ไม่มีเงินเก็บมากขนาดนั้น แต่ถ้ายิ่งปล่อยนานไป ถ้าตึกล้มลงไปจนถึงคันกั้นคลอง ก็อาจจะถูกดำเนินคดีได้

ทางมูลนิธิปวีณาฯรับเคสนี้ไว้แล้ว ต้องตามลุ้นกันต่อไปว่า จะมีทางช่วยเหลือครอบครัวของคุณลุงอย่างไรต่อไปนะครับ