นักลงทุนชี้ “หวั่นเศรษฐกิจไทยทรุด” คนผ่อนส้มตำ 50 บาท 0%

“เบิร์ท มานิตย์” นักลงทุนอิสระชื่อดัง โพสต์ถึงภาวะเศรษฐกิจไทยในปัจจุบัน หวั่นเกิดภาวะวิกฤติ หลังพบว่ามีคนกินส้มตำ 50 บาท ผ่อน 0% นาน 10 เดือน เฉลี่ยจ่ายเดือนละ 5 บาท ผ่านแอปฯดัง

อยู่ในจุด ๆ นี้แล้วจริงหรือ?

(3 พ.ค. 68) นายมานิตย์ ศรายุทธิกรณ์ นักลงทุนอิสระชื่อดัง โพสต์ข้อความผ่านเพจเฟซบุ๊ก Bert Manit ร่ายยาวถึงการใช้ชีวิตในภาวะวิกฤติของเศรษฐกิจ พร้อมเปิดเผยว่าในตอนนี้ ถึงขั้นมีคนผ่อนส้มตำ 50 บาท ผ่อน 0% 10 เดือน เดือนละ 5 บาท ชี้อยู่ในโหมดการเอาชีวิตรอด

โพสต์ระบุว่า

ผมตัดใจขาย Porsche – ขาดทุนทันที 4 ล้านบาท ใช่ครับ เพื่อนๆอ่านไม่ผิด

“รถคันที่ผมเคยภูมิใจที่ได้เป็นเจ้าของ กลายเป็นสิ่งที่ผมต้องตัดใจขายออกไป”

“ขายทำไมว่ะพี่ เสียดาย… รถในฝันผมเลย” น้องในรีบทีมถาม วันที่รู้ว่าผมตัดสินใจขายรถ

“เราไม่ได้เป็นเจ้าของสิ่งของ… สิ่งของต่างหากที่เป็นเจ้าของเรา” ผมตอบน้อง

1. ผมไม่รู้อนาคตว่า เศรษฐกิจบ้านเราจะแย่กว่านี้ขนาดไหน เพราะตอนนี้ คือ “เงียบกันหมด”

– ห้างเงียบ : หลัง 2ทุ่ม คือ ร้างมากแทบไม่มีคน

– ร้านอาหารเงียบ : ร้านแพงๆ คือเข้าได้เลยไม่มีคิว

– ตลาดเงียบ : แม่ค้าบ่นกันทั้งตลาดว่าขายของยาก

“เป็นการตะโกนบอกเราว่า เศรษฐกิจไทย เข้าสู่ Survival Mode แบบ 100%”

2. Mindset ใน Survival Mode

>> เงินเฟ้อไม่น่ากลัวเท่า “Lifestyle Inflation”

“Lifestyle Inflation คือโรคติดต่อทางการเงิน ยิ่งรวย ยิ่งติดง่าย รักษายาก”

“หาได้เยอะ ใช้เยอะ” กาแฟแก้วละ 40 บาทไม่เพียงพออีกต่อไป ต้อง สตาร์บัค 120++

เสื้อผ้าในตู้เก่าๆ กลายเป็น “ไม่เหมาะสมกับสถานะ” ต้องแบรนด์เนม

“รายได้สูงขึ้น เรารู้สึกว่ามีอำนาจในการจับจ่าย เดินดูของในห้างก็ หวานเจี๊ยบเลย เราซื้อได้”

แต่หลายครั้ง “เรารู้ว่า ‘ซื้อได้’ แต่เราลืมคิดว่า ‘จำเป็นต้องซื้อไหม

>> “อยากมีเงินเก็บมากขึ้น ต้องลดเงินจ่ายก่อน”

การเพิ่มรายได้ -ยากกว่า – การลดรายจ่ายเสมอ

การเพิ่มรายได้ต้องใช้เวลา ต้องรอให้บริษัทปรับเงินเดือน ต้องเรียนรู้ทักษะใหม่ หรือหางานเสริม

“แต่การลดรายจ่าย? เราทำได้ทันทีเดี๋ยวนี้ เห็นผลเร็วกว่า ควบคุมได้มากกว่า”

“ไม่มีใครเคยจน… เพราะไม่ซื้อของที่ไม่จำเป็น”

3. กฏ 2 ข้อ : Survival Mode นี้จะรอดได้ยังไง

>> กฎข้อ 1: “แยกให้ชัด – ต้องการ VS อยากได้”

ทุกการใช้จ่าย: “ถ้าไม่มีสิ่งนี้ ชีวิตจะลำบากขึ้นมั้ย?” “สิ่งนี้ช่วยให้เราสร้างรายได้เพิ่มมั้ย?”

ถ้าคำตอบคือ “ไม่” แปลว่ามันเป็นสิ่งที่ “อยากได้” ไม่ใช่ “ต้องการ”.

“ตรวจสอบบัญชีดูสิว่า… คุณกำลังซื้อความสุข หรือกำลังเช่าความกังวล?”

>> กฎข้อ 2: “ระวังหลุมพราง 0%”

“จุดเริ่มต้นของการเป็นหนี้ คือผ่อน 0% รวมๆ กันเยอะๆๆๆ จนเสียนิสัย”

ล่าสุด ผมเพิ่งรู้ว่าแอพส้มผ่อนอาหารได้แล้ว ได้ยินมาว่า – มีคนผ่อนส้มตำ! ส้มตำ 50 บาท ผ่อน 0% 10 เดือน เดือนละ 5 บาท… เพื่อนๆคิดว่าไงครับ?

4. สุดท้ายอยากจะบอกเพื่อน ๆ ว่า “เมื่อเราเลิกพยายามทำให้คนอื่นประทับใจ เงินในบัญชีเราจะเพิ่มขึ้นอย่างน่าประหลาด”

โลกโซเชียลทุกวันนี้ มักฉายภาพชีวิตที่สมบูรณ์แบบ ทำให้เรารู้สึกว่าต้องมีทุกอย่างที่คนอื่นมี

แต่ผมอยากบอกว่า “ชีวิตที่มีความสุขไม่จำเป็นต้องมีทุกอย่าง แค่ต้องมีสิ่งที่ใช่” ทุกวันนี้ค่าใช้จ่ายทุกอย่างที่ไม่จำเป็น ผมตัดทิ้งหมด ยกเว้นค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับแม่ อันยังต้องใช้อยู่

ปล. เราไม่ลืมนะเพื่อนๆ ทุกค่าใช้จ่ายที่ลด คือ รายได้ที่เพิ่มขึ้น เงินเก็บที่เพิ่มขึ้น เงินในพอร์ตที่เพิ่มขึ้น ทำให้เราพร้อมรับมือกับ “ทุกวิกฤต และ ทุกโอกาส”

“เศรษฐกิจเป็นวัฏจักร… วันนี้เราอาจกำลังอยู่ช่วงตกต่ำ แต่นั่นหมายความว่า จุดพลิกผันกำลังใกล้เข้ามา”

ขอให้เพื่อนๆทุกคน อยู่รอดจากวิกฤตินี้อย่างชาญฉลาด… อดทนเก็บเงิน อดทนลดรายจ่าย อดทนไม่แข่งกับใคร เพราะเมื่อเศรษฐกิจฟื้น… คนที่มีเงินสดในมือจะเป็นคนกลุ่มแรกที่คว้าโอกาสได้ก่อนใคร และผมเชื่อว่า… เพื่อนๆ ที่กำลังอ่านบทความนี้จะเป็นหนึ่งในคนกลุ่มนั้น

ขอบคุณข้อมูล : เฟซบุ๊ก Bert Manit