กระท่อม พืชเศรษฐกิจใหม่มาแรง ปลูกอย่างไรให้เป็นที่ต้องการของตลาด

รู้จัก พืชกระท่อม เรียนรู้ วิธีการปลูกอย่างไร ให้สร้างรายได้ปัง ๆ

สำหรับสายพันธุ์ กระท่อม ที่เราสามารถพบได้ในประเทศไทยนั้น มีอยู่ 3 สายพันธุ์ คือ 1. ก้านเขียว 2. ก้านแดงหางกั้ง และ 3. ก้านแดง มักพบมากในป่าธรรมชาติบริเวณภาคใต้ ซึ่งในแต่ละสายพันธุ์นั้น จะมีสารสำคัญที่แตกต่างกันออกไป รวมถึงรสชาติของใบที่มีไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับการนำไปใช้ประโยชน์ สำหรับท่านที่จะนำไปทำในเชิงอุตสาหกรรม แนะนำให้ปลูกสายพันธุ์ก้านแดง และก้านแดงหางกั้ง จะเป็นที่ต้องการของอุตสาหกรรมแปรรูป และในส่วนของสายพันธุ์ก้านเขียวนั้นเหมาะสำหรับการนำมาบริโภค หรือใช้เป็น สมุนไพรรักษาโรค ในครัวเรือน

โดยวิธีการปลูกไม่ยุ่งยาก เพราะ กระท่อม เป็นพืชที่คงทนในด้านของศัตรูพืชไม่มี หรืออาจพบเจอได้น้อยมาก เนื่องจาก พืชกระท่อม มีลักษณะทางยาค่อนข้างขม แมลงไม่ชอบ โดยแนะนำให้ใช้ต้นพันธุ์เสียบยอดสายพันธุ์จะนิ่ง ลักษณะการปลูกจะใช้ตอกระทุ่มนาเป็นต้นตอในการเสียบยอด ปลูกในระยะ 4×4 เมตร พื้นที่ 1 ไร่ จะปลูกได้ประมาณ 100 ต้น จากนั้นใช้เวลาอีกประมาณ 3-5 เดือน ถ้าใช้ต้นพันธุ์จากการเสียบยอดก็จะสามารถเก็บผลผลิตขายได้ทุกๆ 15 วัน ขึ้นอยู่กับการดูแลรักษา และ การใส่ปุ๋ย เน้นใส่ปุ๋ยคอก ในทุกๆ 20-30 วัน ใส่ปุ๋ย 1 ครั้ง

ซึ่งราคาของ ใบกระท่อม ตอนนี้ เนื่องจากเป็นพืชที่กำลังอยู่ในกระแส เป็นที่ต้องการของตลาด แต่ต้นยังหายาก เพราะเพิ่งได้รับการยอมรับ ให้ขายได้อย่างถูกกฎหมาย ส่งผลทำให้ต้นของ พืชกระท่อม มีราคาสูงมาก ขายใบกิโลกรัมละ 250 – 500 บาท ตามขนาดของต้น และความนิยมตามสายพันธุ์ ซึ่งตอนนี้พันธุ์ที่นิยมคือ พันธุ์ก้านแดงหางกั้ง ที่สามารถนำไปต่อยอดในเชิงอุตสาหกรรมได้หลากหลาย รวมถึงการใช้บำบัดผู้ติดยาเสพติดได้ด้วย