กาฬสินธุ์ เลี้ยงกบในป่ายางพารา ใช้พื้นที่คุ้มค่า สร้างรายได้ตลอดปี

อีกหนึ่งทางเลือก ของเกษตรกรชาวกาฬสินธุ์ เลี้ยงกบในสวนยางพารา สามารถสร้างรายได้ดีตลอดปี

วันนี้ (30 พ.ย. 64) ที่ศูนย์เรียนรู้ด้านการประมง บ้านศรีสมบูรณ์ ตำบลนิคม อำเภอสหัสขันธ์ นางสาว แววตา นระทัด นายอำเภอสหัสขันธ์ นางสาวกฤษณา เขามีทอง ประมงอำเภอสหัสขันธ์ ออกเยี่ยมศูนย์เรียนรู้ด้านการประมงอำเภอสหัสขันธ์ ที่ สวนยางพารา ของนางบุญโฮม ปรีจิตต์ และนายพิเชษฐ์ ปรีจิตต์ เกษตรกร บ้านศรีสมบูรณ์ หมู่ที่ 4 ตำบลนิคม อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ซึ่งได้จัดทำศูนย์เรียนรู้ทำการประมง เลี้ยงกบนาในป่ายางพารา ที่สามารถลดต้นทุนโรงเรือน อาศัยร่มเงาจากต้นยางพารา ลดร้อนให้กบในบ่อดิน

นางสาวกฤษณา เขามีทอง ประมงอำเภอสหัสขันธ์ กล่าวว่า เพื่อเป็นการส่งเสริมประสิทธิภาพของ เกษตรกร ในการประมง ของอำเภอสหัสขันธ์ โดยได้กระจายศูนย์เรียนรู้ตามความสมัครใจของ เกษตรกร ใน 8 ตำบล 8 ศูนย์เรียนรู้ ของนายพิเชษฐ์ ปรีจิตต์ และนางบุญโฮม ปรีจิตต์ เกษตรกร ได้รับการสนับสนุนจากประมงจังหวัด กาฬสินธุ์ และ ประมงอำเภอสหัสขันธ์ เลี้ยงกบนาไว้จำนวน 2,000 ตัว และวัสดุ อุปกรณ์ อาหารกบ เป็นเงินกว่า 5,000 บาท ในปีแรก และในปีถัดไปก็จะไดรับการสนับสนุนในนามศูนย์เรียนรู้ด้านการประมง จำนวน 2,000 บาท ต่อปี ภายในศูนย์เรียนรู้ฯ แยกเป็นกบนาเนื้อไว้จำหน่ายใน กก.ละ 100-120 บาท ขณะที่กบพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ อีกส่วนหนึ่ง เตรียมไว้ขายพันธ์เพื่อจำหน่ายพันธุ์กบ และจำหน่ายพ่อพันธุ์แม่พันธุ์ ซึ่งแยกเป็นรายได้ 3 ส่วน ที่จะสามารถสร้างรายได้ตลอดทั้งปี ทั้งนี้เกษตรกรยังลดรายจ่ายโรงเรือน ด้วยการ เลี้ยงกบนา บ่อดินในป่ายางพาราท้ายสวนหลังบ้าน โดยเบื้องต้นผลผลิตเป็นที่น่าพอใจเป็นอีกศูนย์เรียนรู้ด้านการเพาะ เลี้ยงกบ สำหรับเกษตรกรผู้สนใจได้เป็นอย่างดี

นายพิเชษฐ์ ปรีจิตต์ เกษตรกร ต.นิคม บอกว่า มีความสนใจจะ เลี้ยงกบนา จึงเข้าไปปรึกษาประมง อำเภอสหัสขันธ์ จากนั้นได้ลงพื้นที่ศึกษาตามจุดเรียนรู้แหล่งต่าง ๆ จนมีแนวความคิดที่จะเลี้ยงในบ่อดิน เพราะไม่อยากสิ้นเปลืองในการก่อสร้างโรงเรือน และมีความต้องการเลี้ยงแบบธรรมชาติมากกว่า จึงได้ประยุกต์เอาพื้นที่ว่างเปล่าในป่าย่าง มาขุดบ่อลึก 1.20 เมตร ยาว 10 เมตร จำนวน 3 บ่อ รอบปากบ่อใช้มุ้งเขียวมุงรอบ ใช้ผ้าสแลนสีดำปิดปากบ่อ โดยใช้ไม้ไผ่ที่หาง่ายเป็นแนวหลักเสริมความแข็งแกร่งของบ่อเลี้ยง ในการลงทุนครั้งแรก มีค่าใช้จ่ายไม่ถึง 3,000 บาท ส่วนระบบน้ำได้ใช้น้ำบ่อบาดาลสูบด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ ปล่อยระบายน้ำเข้า – ออกบ่อเลี้ยงกบอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1 ครั้ง โดยได้เริ่มต้นเลี้ยงมา 4 เดือนขณะนี้สามารถจับกบจำหน่ายได้แล้ว รุ่น 4-6 ตัว ต่อ 1 กก. ขายที่กิโลกรัมละ 100-120 บาท ตามไซส์ของกบนอกจากจะขายกบเนื้อแล้วยังเริ่มเรียนรู้เพาะพันธุ์ลูกกบจำหน่าย และขายพ่อพันธุ์แม่พันธุ์กบด้วย ทำให้มีรายได้หมุนเวียนตลอด

ด้วยสถานการณ์โควิด ที่ส่งผลกระทบกับประชาชนทุกครัวเรือน การออกไปรับจ้างทำงานอาจจะเสี่ยงสูง จึงหันมาทำสวนทำนา ทำไร่ ที่บ้าน โชคดีมีที่ดินทำกิน 15 ไร่ เป็นสวนยางพารา 12ไร่ พื้นที่โคกหนองนา 3 ไร่ พื้นที่เลี้ยงกบนา อยู่ในป่ายาง โดยใช้ช่องว่างระหว่าง ต้นยางพารา เป็นบ่อขุด นอกจากจะอาศัยร่มเงา ความเย็นสบายในป่ายาง เลี้ยงกบนาได้ดีไม่ร้อน ป่ายางก็จะได้ความชุ่มชื้นจากบ่อกบ หล่อเลี้ยงกันและกัน ซึ่งเป็นการผสมผสานและใช้พื้นที่ให้คุ้มค่า สำหรับเกษตรกรที่สนใจอยากได้พันธุ์กบ ก็สอบถามมาได้ โดยทางศูนย์เรียนรู้ด้านการประมง บ้านศรีสมบูรณ์ ตำบลนิคม อำเภอสหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ ยังเปิดโอกาสให้เพื่อเกษตรกรที่สนใจมาเรียนรู้ได้ทุกวัน ที่บ้านศรีสมบูรณ์ ตำบลนิคม อำเภอสหัสขันธ์

หรือจะโทรติดต่อได้ที่ 095-949-4300 หรือที่สำนักงานประมงอำเภอสหัสขันธ์ 084-766-3198