ชาวนาระทม! ขาย ข้าวเปลือก ขาดทุนยับ หัน ปลูกถั่ว มันสำปะหลัง

เกษตรกร ชาวกาฬสินธุ์ ปรับผืนนา ปลูกมัน-ถั่ว-ข้าวโพด ขาย หวังราคาขายสูงกว่าข้าวเปลือก

วันนี้ ( 7 ธ.ค. 64 ) จากการติดตามบรรยากาศการประกอบอาชีพ ของ ชาวนา ใน จ. กาฬสินธุ์ หลังเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปีเสร็จสิ้น โดยส่วนมากนำ ข้าวเปลือก ไปขาย และแบ่งไว้เป็นอาหารในครัวเรือน จากนั้นในฤดูแล้ง ทำการเพาะปลูกพืชประจำฤดู โดยเฉพาะในพื้นที่ใช้น้ำชลประทานลำปาว อ.เมืองกาฬสินธุ์ อ.ยางตลาด อ.กมลาไสย ซึ่งทุกปีที่ผ่านมาจะมีการเพาะปลูก ข้าวนาปรัง เต็มพื้นที่ แต่จากภาพที่ปรากฏในวันนี้ ชาวนา ปรับผืนนา ข้าวมาปลูกพืชชนิดอื่นทดแทนข้าวนาปรังกันเป็นจำนวนมาก หลังที่ผ่านมาประสบปัญหาราคา ข้าวเปลือก ตกต่ำกิโลกรัมละ 5 บาท ทำให้ขาดทุนเป็นอย่างมาก

นายสมบัติ ภูถาดลาย อยู่บ้านเลขที่ 76 หมู่ 10 บ้านโนนสามัคคี ต.ดอนสมบูรณ์ อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ บอกว่า ในฤดูแล้งทุกปีที่ผ่านมา ตนจะทำนาปรัง โดยทำนาหว่าน เพื่อความสะดวก ประหยัดต้นทุน มีน้ำเพียงพอ ราคาดี พอขายมีกำไรบ้างนิดหน่อย แต่ผลสืบเนื่องจากราคาข้าวเปลือกนาปี ที่โรงสีและลานรับซื้อทั่วไปรับซื้อในราคาต่ำในปีนี้เพียงกิโลกรัมละ 5 บาท ขณะที่ราคาปุ๋ยเคมี ค่าจ้างรถเกี่ยวข้าวสูงมาก ชาวนา ทุกคนประสบปัญหาขายข้าวขาดทุน สำหรับตนมีไม่กล้าเสี่ยงที่จะทำนาปรังอีก เพราะหากทำก็คงจะขาดทุน จึงหันมาปลูกข้าวโพดและถั่วฝักยาวแทน ขณะที่เพื่อน ชาวนา หลายรายก็หันไปปลูกพืชชนิดอื่น เช่น มันสำปะหลัง หรือพืชตระกูลแตงอื่นๆ

และสำหรับตลาดรองรับผลผลิต ก็จะนำจำหน่ายตามตลาดชุมชน และตามหมู่บ้าน ซึ่งคาดว่าจะได้กำไร ไม่ขาดทุน ไม่เหมือนปลูกข้าวหรือทำนาปรัง เพราะการปลูกข้าวโพดและถั่วฝักยาว ดูแลง่าย ไม่สิ้นเปลืองปุ๋ยเคมี ไม่ต้องจ้างแรงงานหรือรถเก็บเกี่ยว โดยเฉพาะราคาซื้อขายสูงกว่าข้าวเปลือกเสียอีก เช่น ข้าวโพด 3 ฝัก ราคา 20 บาท หรือถั่วฝักยาวกำละ 10 บาท การเปลี่ยนอาชีพจากทำนาปรัง มาปลูกข้าวโพดและถั่วฝักยาว จึงมั่นใจว่าจะมีรายได้ดี มีกำไรกว่าทำนาปรังแน่นอน

อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากราคาข้าวเปลือกนาปีที่ตกต่ำ ทำให้ ชาวนา ไม่กล้าเสี่ยงที่จะลงทุนทำนาปรังดังกล่าว จากการสำรวจพบว่ามีการเปลี่ยนอาชีพ โดยหันไปปลูกพืชชนิดอื่นทดแทนการปลูกข้าว จึงทำให้พื้นที่นาปรังในเขตใช้น้ำชลประทานลำปาว เดิมในปี 2563 เคยมีเกษตรกรปลูกข้าวนาปรังฤดูแล้งกว่า 120,000 ไร่ ซึ่งในช่วงปลายปี 2564 และต้นฤดูปลูกพืชหน้าแล้งพื้นที่ข้าวนาปรังมีแนวโน้มลดลงอย่างน้อย 5,000 ไร่ เนื่องจากเกษตรกรหันไปปลูกพืชชนิดอื่นแทน