ชาวบ้าน รับจ้างเกี่ยวข้าว ช่วยเหลือเพื่อนชาวนา หลังเจอค่ารถเกี่ยวแพง

ชาวบ้าน กาฬสินธุ์ สุดทน! ตั้งทีม รับจ้างเกี่ยวข้าว ช่วยแบ่งเบาภาระชาวนา หลังค่า รถเกี่ยวข้าว แพง ถึงไร่ละ 1 พันบาท !

วันนี้ ( 23 พ.ย. 64 ) จากการติดตามบรรยากาศการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าวนาปี ของชาวนาใน จังหวัด กาฬสินธุ์ ซึ่งเป็นช่วงเมล็ดข้าวได้อายุเก็บเกี่ยวเต็มที่ ประกอบกับสภาพอากาศที่ร้อนจัด ส่งผลให้เมล็ดข้าวแห้งกรอบ รวงเริ่มหัก และตกหล่น โดยพบชาวนานอกเขตชลประทาน ที่อาศัยน้ำฝนเป็นหลัก ความชุ่มชื้นในดินมีน้อย ได้เก็บเกี่ยวเสร็จแล้ว โดยจ้างรถเกี่ยวสูงเฉลี่ยไร่ละ 800 – 1,000 บาท

ขณะที่ ชาวนา ในเขตได้ใช้น้ำชลประทานเขื่อนลำปาว และมีพื้นที่นาหลายไร่ ความชื้นในดินสูง เมล็ดข้าวจึงแก่ช้ากว่าพื้นที่นอกเขตชลประทาน แต่ก็เริ่มแห้งกรอบ เนื่องจากกลางวันแดดร้อนจัด เมล็ดข้าวจึงแก่เร็ว รวมทั้งยังรอคิวรถเกี่ยว ซึ่งคิวยังไม่ว่างมาเกี่ยวให้ โดยยังคิดอัตราค่าจ้างสูงไร่ละ 1,000 บาท ทั้งนี้ผู้ประกอบการ รถเกี่ยวข้าว อ้างว่าน้ำมันแพง เกี่ยวยาก เนื่องจากข้าวล้ม และเป็นโคลนตม มีน้ำขัง จึงต้องคิดราคาค่าจ้างสูงดังกล่าว ทำให้ชาวบ้านต้องตั้งทีมรับจ้าง เกี่ยวข้าวด้วยมือ เพื่อช่วยเพื่อนชาวนาที่ต้องจ่ายค่า รถเกี่ยวข้าว ที่สูง

ชาวนาบ้านตูม จ. กาฬสินธุ์ บอกว่า ตนมีที่นา 20 ไร่ โดยเป็นสมาชิกศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวกาฬสินธุ์ ผลิตเมล็ดพันธุ์ให้กับศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวฯ เป็นการทำนาดำ จึงทำหลายขั้นตอน ทั้งหว่านเมล็ดพันธุ์ ถอนกล้า ปักดำ เกี่ยวด้วยมือ ซึ่งทุกขั้นตอนเป็นการจ้างแรงงานทั้งหมด หากรวมกับค่าปุ๋ยเคมี ต้นทุนการลิตต่อไร่สูงมากถึงไร่ละ 7,000 บาท ปีที่ผ่านมาขายผลผลิต ข้าวเปลือก เฉลี่ยกิโลกรัมละ 20 บาท รายได้พอคุ้มทุน แต่ปีนี้ยังไม่ทราบราคา เนื่องจากรอทางศูนย์เมล็ดพันธุ์ฯ แจ้งราคา หลังตรวจคุณภาพเมล็ดข้าว ทั้งนี้ ในการเก็บเกี่ยวผลผลิตข้าว ได้จ้างแรงงาน เกี่ยวข้าวด้วยมือ และขอความร่วมมือคนงาน ในการคัดแยกพันธุ์ปลอมปน เพื่อคุณภาพของเมล็ดพันธุ์ด้วย

ด้านนางวะ ตะวงษา อายุ 64 ปี บ้านเลขที่ 34 หมู่ 2 บ้านหนองกุง ต.เขาพระนอน อ.ยางตลาด จ.กาฬสินธุ์ กล่าวว่า แปลงนาตนอยู่นอกเขตใช้น้ำชลประทาน หลังจ้าง รถเกี่ยวข้าว เสร็จ ได้ชักชวนญาติพี่น้องลูกหลาน จำนวน 25 คน ตั้งทีมรับจ้างเกี่ยวข้าว ชื่อทีม “ยายเหี่ยว สุดสวย” ซึ่งชื่อยายเหี่ยวนั้นเป็นชื่อเล่นของตน โดยมีเงื่อนไขกับ ชาวนา หรือผู้จ้างที่ติดต่อว่าจ้างขอค่าแรงวันละ 300 บาท แถมเลี้ยงอาหารมื้อเช้ากับมื้อเที่ยง และรถรับส่งฟรี ซึ่งในปีนี้ ราคาข้าวเปลือกตกต่ำ มาก เฉลี่ยข้าวเกี่ยวสดนำไปขายได้กิโลกรัมละ 5-6 บาท ข้าวเปลือกแห้ง 7 บาท สำหรับปีนี้ตนไม่คิดหวังรายได้จากการขายข้าวเลย เพราะมีที่นา 4 ไร่ จ้างรถเกี่ยวไร่ละ 800 บาท รวม 3,200 บาท ค่าปุ๋ยเคมี ค่าไถ ค่าเสียโอกาสไม่ต้องพูดถึงเลย ขาดทุนยับเยิน ดังนั้น หลังจากจ้างรถเก็บเกี่ยวข้าวเสร็จ โดยเก็บไว้เป็นอาหารทานในครัวเรือน จึงชักชวนญาติพี่น้องลูกหลาน ตั้งทีมรับจ้าง เกี่ยวข้าวด้วยมือ ทั้งนี้ ตนและญาติพี่น้องตั้งทีมรับจ้างมาหลายปี ตั้งแต่สมัยค่าแรงวันละ 50 บาท ทั้งถอนกล้า ปักดำ และเกี่ยวข้าว โดยจะตะเวนรับจ้างในเขตใช้นำชลประทาน ที่ชาวนามีที่นาหลายไร่ และผลิตเมล็ดพันธุ์ให้กับศูนย์เมล็ดพันธุ์ข้าวฯ ทั้งนี้ ด้วยความเห็นอกเห็นใจและบรรเทาความเดือดร้อนให้กับเพื่อนชาวนา ที่แบกรับค่าใช้จ่ายแพง จึงคิดค่าแรงเพียงวันละ 300 บาท แต่ขอให้ทางเจ้าภาพรับส่งและเลี้ยงอาหาร 2 มื้อดังกล่าว