คุณตาวัย 70 ปี ผันชีวิต ปลูกองุ่น สร้างรายได้ ช่วงวิกฤติ โควิด

เรื่องราวดี ๆ ของคุณตาวัย 70 ปี กลับต่างประเทศไม่ได้ ผันชีวิต ปลูกองุ่น สร้างรายได้ ให้ตัวเองช่วงวิกฤติ โควิด

คุณตา กลับต่างประเทศไม่ได้ เลยผันชีวิต มาปลูกองุ่น ที่ จ.ขอนแก่น

วันนี้ ( 2 ก.พ.64) จันลั่นทุ่ง ได้ไปเจอกับ ตาวัย 70 ปี ที่ได้เดินทางกลับมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา เพื่อกลับมาเยี่ยมบ้านที่ จ. ขอนแก่น ช่วงปีที่ผ่านมา แล้วดันมาเจอพิษ โควิด -19 เลยเข้าซ้ำ จึงทำให้คุณตาต้องเลื่อนตั๋วถึง 3 ครั้ง และไม่สามารถเดินทางกลับประเทศได้ คุณตาจึงตัดสินใจแบ่งพื้นที่ 1 ไร่นาที่เคยปลูกข้าว แบ่งมาเพื่อมา ปลูกองุ่น ซึ่งเหมาะกับช่วงนี้ ที่มีอากาศเย็น จึงทำให้ องุ่น ออกพวงสวยงามเต็มสวน จึงทำผู้คนที่เห็นต่างมาถ่ายรูปและแชร์ผ่านโซเชียลกันมากมาย อีกทั้งยังมีการเขียนชื่อเบอร์โทรจององุ่นไว้อีกด้วย

เมื่อข่าวได้แพร่ออกไป ต่างมีนักท่องเที่ยวทยอยเดินทางเข้ามาเพื่อชมสวนองุ่นที่ออกผลสวยงามอย่างต่อเนื่อง ที่ สวนเกษตร บ้านโคกก่อง หมู่ 2 ต.หินตั้ง อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น อย่างล้นหลาย บ้างก็มาถ่ายภาพเก็บไว้ บางคนก็เขียนชื่อนามสกุล เบอร์โทรศัพท์ลงในกระดาษแล้วติดไว้ที่กิ่งของพวงองุ่นที่ตนสนใจ เพื่อเป็นการจององุ่นพวงนั้น เนื่องจากทราบว่าองุ่นในสวนยังไม่สามารถเก็บไปรับประทานได้ ต้องรอถึงช่วงเดือนมีนาคม ถึงจะเก็บเกี่ยวกินได้

ด้านนายเฉลิม ผุสธรรม อายุ 70 ปี เจ้าของสวนโคกก่อง สวนเกษตร เล่าให้ฟังว่า เดิมพื้นที่แห่งนี้ปลูกมันสำปะหลังและทำนา เนื่องจากเป็นพื้นที่ดินแห้งแล้ง ซึ่งเมื่อประมาณต้นปี 63 ตนได้เดินทางมาจากรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกาเพื่อมาเยี่ยมบ้านที่ อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น แต่พอจะเดินทางกลับไปยังอเมริกา เป็นจังหวะที่เริ่มมีการแพร่ระบาดของโควิด 19 รอบแรก ทำให้ถูกเลื่อนตั๋วเครื่องบินถึง 3 ครั้ง ช่วงระหว่างอยู่ที่เมืองไทยไม่มีอะไรทำ ประกอบกับมีที่ดินอยู่ 17 ไร่

จึงเริ่มมีความคิดจะทำการเกษตร จนกระทั่งเดือนมีนาคม 63 ตัดสินใจปลูกองุ่น 2 สายพันธุ์ ได้แก่ พันธุ์ไวท์มะละกา และพันธุ์บิวตี้ ซีดเลส หรือองุ่นไข่ปลา จำนวนรวม 350 ต้น ในพื้นที่ 1 ไร่ เป็นการทดลองก่อน ลงทุนทำแปลงและระบบท่อส่งน้ำโดยมีเพื่อนบ้านและญาติ ๆ ช่วยกันดูแล ต่อมาเดือนกันยายน 63 ต้นองุ่นเริ่มออกผลจำนวนมากเป็นพวงสวย ซึ่งถือเป็นความสำเร็จที่ตนไม่คิดมาก่อนว่าพื้นที่แห้งแล้งนี้ ที่ไม่สามารถปลูกอะไรได้จะปลูกองุ่นได้งอกงามขนาดนี้ จากนั้น ญาติ ๆ จึงช่วยกันโพสต์ผ่านเฟซบุ๊ก จนชาวเน็ตเข้ามาแสดงความคิดเห็นชื่นชมและติดต่อขอเข้ามาชมอย่างไม่ขาดสาย ซึ่งตนก็ได้เปิดให้เข้าชมฟรี แต่ขอร้องไม่ให้แตะต้อง เพราะองุ่นยังไม่ถึงเวลาเก็บ

ขณะที่นางศุกร์ อาศัยนา ชาวอำเภอบ้านไผ่ จ.ขอนแก่น และนักท่องเที่ยวนักท่องเที่ยวที่เข้ามาชมสวนองุ่นต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าไม่คิดว่าพื้นที่แห้งแล้งจะสามารถปลูกองุ่นจนให้ผลดกและสวยงามขนาดนี้ เมื่อเห็นในโลกโซเชียลมีการแชร์ต่อ ๆ กันมา จึงอยากเข้ามาชมของจริง โดยเฉพาะช่วงนี้อากาศเย็นสบาย เหมาะแก่การออกมาท่องเที่ยว ซึ่งเมื่อมาก็ไม่ผิดหวังเลย ถึงไม่ได้รับประทานองุ่นจากต้นแต่ก็ขอเก็บภาพกับองุ่นพวงสวย ๆ ไว้ก็พอใจแล้ว

สำหรับใครที่อยากมาถ่ายภาพกับองุ่นก่อนก็สามารถ มาได้ที่ โคกก่อง สวนเกษตร ต.หินตั้ง ห่างจากเทศบาลเมืองบ้านไผ่ ไปทางอำเภอบรบือ จ.มหาสารคาม ไปประมาณ 11 กิโลเมตร หลังปลูกองุ่นได้ผลดี สุดท้ายนายเฉลิมฯ บอกว่า ตนจะปลูกต้นองุ่นเพิ่มขึ้น และจะปลูกไม้ผลอื่น ๆ อีกด้วย ซึ่งขณะนี้ได้ปลุกแตงโมไว้ 4 ไร่แล้ว รวมถึงจะพัฒนาให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรต่อไป

โอ้โห! เห็นแบบนี้แล้ว อยากไปบ้างจัง