ทุนหายกำไรหด สับปะรดท่าอุเทนเหลือโลละ 4 บาท !

ทุกข์ชาวสวน สับปะรดท่าอุเทน พืชเศรษฐกิจนครพนมตอนนี้ราคาดิ่งต่ำ โควิดทำพิษปิดการซื้อขาย ของเหลืออื้อ วอนรัฐบาลช่วยการตลาด

ลำบากกันทุกหย่อมหญ้า เมื่อ โควิด ระลอกนี้มาเยือน คราวนี้เป็นทุกข์ของชาวสวน สับปะรดท่าอุเทน ที่รายได้ดิ่งลงเหวรายได้ลดกว่า 80 เปอร์เซ็นต์ ราคาตกจากกิโลกรัมละ 20 -25 บาท เหลือแค่ กิโลกรัมละ 4 บาท ตกต่ำที่สุดในรอบ 10 ปี เคราะห์ซ้ำพ่อค้าไม่รับซื้อ สับปะรด เน่าเสียตามกาลเวลา หากขายไม่หมดต้องทำปุ๋ย ไม่คุ้มที่ลงทุน วอนรัฐเห็นใจเข้าช่วยเหลือด่วน

วันนี้ (11 พ.ค.64) ทีมงาน จันลั่นทุ่ง ของเราอยากนำเสนอความทุกข์ของ เกษตรกร ที่จังหวัด นครพนม ที่เป็นแหล่งปลูกสับปะรดท่าอุเทนคุณภาพเยี่ยมที่มีรสชาติหวานอร่อยถูกใจใครหลายคน ของดีที่เป็น สิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ หรือ GI เคยส่งผลผลิตขายไปทั่วภาคอีสานและทั่วประเทศไทย มีพื้นที่ปลูกหลายร้อยไร่ สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรถึงปีละหลาย 10 ล้านบาทเลยทีเดียว แต่ตอนนี้ได้รับผลกระทบหนักจากวิกฤตโควิด จากเดิมที่ขายได้ดีจากปกติ ในช่วงนี้จะขายได้ราคาประมาณกิโลกรัมละ 20 -25 บาท ราคาขายส่งให้โรงงาน ประมาณกิโลกรัมละ 10 -15 บาท แต่ในช่วงนี้ราคาตกต่ำสุดรอบ 10 ปี ขายได้กิโลกรัมละประมาณ 4 -5 บาทเท่านั้น หนำซ้ำยังไม่มีคนมารับซื้อจากสวนอีกด้วย

นอกจากนี้ในส่วนของพื้นที่ขายสับปะรดริมถนน ทางหลวงหมายเลข 212 นครพนม-ท่าอุเทน บริเวณบ้านธาตุ ม.13 ต.โนนตาล อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม ซึ่งเป็นพื้นที่ขายสับปะรดขึ้นชื่อ ตอนนี้ก็ไม่ค่อยมีลูกค้ามาแวะซื้อ ต้องแบกภาระต้นทุนหนัก หากขายไม่ได้ ผลผลิตต้องเสียหายโดยจะต้องนำไปทำปุ๋ย โดยบรรดาพ่อค้าแม่ค้า วอนขอให้ทางภาครัฐหาทางดูแลช่วยเหลือ

โดยนางปรีญา มานะโพน อายุ 55 ปี ชาวสวนสับปะรด ต.โนนตาล อ.ท่าอุเทน จ.นครพนม เล่าให้ฟังว่า ปีนี้ยอมรับว่าสถานการณ์โควิดส่งผลกระทบหนัก ยิ่งในช่วงนี้เป็นช่วงเก็บผลผลิตส่งขายป้อนตลาด แต่ไม่มีพ่อค้า แม่ค้า มารับซื้อในสวน รวมถึงจุดขายริมทางยังขายยาก เพราะไม่มีนักท่องเที่ยว ผ่านไปมา ถือว่ากระทบหนักที่สุดที่เคยเจอ ตนทำสวนปลูกสับปะรดจำนวนกว่า 5 ไร่ หรือประมาณจำนวน 22,500 ต้น โดยทำเป็นอาชีพมานานกว่า 10 ปีแล้ว ที่ผ่านมา 1 ไร่ ขายได้ประมาณ 50,000-70,000 บาท เป็นพืชเศรษฐกิจที่สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรปีละหลาย 10 ล้านบาท พอมาเจอพิษโควิดระลอกใหม่ ผู้คนไม่เดินทางออกจากบ้าน ด่านการค้าชายแดนถูกปิด ไม่มีพ่อค้ามารับซื้อ ทำให้ยอดขายสับปะรดลดลง ราคาตกต่ำ จากปกติขายได้วันละ 2,000-4,000 บาท เหลือรายได้เพียงวันละ 400 -500บาท เดือดร้อนหนักขายไม่ค่อยได้ ลงทุนไปก็ไม่ได้กำไรคืนมา เงินที่ได้วันละ 400-500 บาท

นำมาเป็นใช้จ่ายในครัวเรือนแทบจะไม่พอ ยอมรับว่าขาดทุนแต่ก็ต้องทนขายกันต่อไป ดีกว่าปล่อยผลผลิตเน่าทิ้งไปเฉย ๆ แต่หากขายไม่ได้จริง ๆ คงต้องนำผลผลิตไปทิ้งทำปุ๋ย เพราะปล่อยไว้นานทำให้ผลผลิตเสียหาย ตอนนี้อยากขอให้หน่วยงานรัฐออกมาช่วยเหลือด้านการตลาด เนื่องจากสับปะรดออกผลผลิตทุกวัน มันรอเวลาไม่ได้ ต้องเร่งระบายผลผลิตออกสู่ท้องตลาดให้เร็วที่สุด ก่อนผลผลิตจะเน่าเสียและขาดทุนไปมากกว่านี้

ทีมงานจันลั่นทุ่งขอเอาใจช่วยพี่น้องเกษตรกรนครพนมด้วยนะคะ หากใครอยากช่วยอุดหนุนก็ลองค้นหาตามเฟซบุ๊ก แอดเจอเกษตรกรนำมาขายเองเยอะแยะเลย ถือว่าช่วยกันอุดหนุนพี่น้องผองไทยเรา ให้พ้นจากความทุกข์จากโควิดนี้นะคะ