ชีวิตไม่สิ้น ก็ต้องดิ้นกันไป เป็นคำกล่าวที่เหมาะสมกับเรื่องราวของคุณลุงเทียน รู้งาน วัย 71 ปี ชาวบ่อไร่ จ.ตราด ที่มุ่งมั่นทำ สวนมังคุด กว่า 30 ปี จนตอนนี้สบายทั้งครอบครัว เป็นเศรษฐี มังคุด เมืองตราดแล้วค่ะ
คุณลุงเทียนเล่าให้ฟังว่าเดิมทีก็ร่างกายสมบูรณ์ปกติ เมื่อหลายสิบปีก่อนลุงเทียนกับเพื่อนได้ขึ้นเขาบรรทัดไปหาขอป่า และผลไม้ป่าบ้าง เพื่อนำมาขายเป็นรายได้เลี้ยงครอบครัวคือภรรยา และหลาน 1 คน รายได้ที่เหลือเล็กน้อยก็จะสั่งสมไว้เป็นทุนปลูกมังคุด ในสวนท้ายบ้าน
สำหรับขาทั้ง 2 ข้างที่ขาด ตนเองได้ถูกระเบิดบนเขาครั้งแรกขาขาดไป 1 ข้าง พักรักษาตัวอยู่หลายเดือน ก่อนที่จะกลับมาทำงานได้ จากนั้น 5 ปี ผ่านไป เคราะซ้ำกรรมซัดลุงเทียนได้ขึ้นเขาไปหาของป่าอีกครั้ง ด้วยขาพิการ 1 ข้าง และโชคร้ายซ้ำถูกระเบิดขาขาดอีก 1 ข้าง ทุกวันนี้ต้องใส่ขาเทียม พอเดินได้บ้าง แต่ลุงก็ไม่ยอมแพ้ต่อโชคชะตา ไม่ท้อขอเดินหน้าสร้างสวนทุเรียนด้วยสองมือง สองขาของแก เดินหน้าสานฝันที่อยากมีสวนมังคุดเป็นของตัวเองเลยขายรถยนต์กระบะสุดรักที่มีอยู่ นำเงินมาลุงทุนซื้อต้นมังคุดมาปลูกเพิ่มในพื้นที่ รวมทั้งหมด 1 พันต้น ลองผิดลองถูกล้มลุกคลุกคลานกับการทำสวนมังคุด จนได้ผลปัจจุบันมังคุดลุงเทียนส่งออกต่างประเทศ ลูกใหญ่ สวย น้ำหนักดี
ลุงเทียนยังเล่าเสริมอีกว่า ปีที่ผ่านมามังคุดราคาถูก ขาดทุนหลักล้าน มาปีนี้มังคุดแพง สวนอื่น ๆ ไม่ค่อยมีใครมี ตอนนี้สวนของตนเองเพิ่งเริ่มเก็บมังคุดได้สองอาทิตย์ ขายได้กว่าล้านบาทแล้ว โดยขายได้ กก.ละ240 บาท หน้าสวน โดยตนเองเก็บและนำไปขายเอง ตกรายได้วันละ 1 แสนบาท จากเป็นหนี้ธนาคาร ธกส.หลายล้านบาท มาปีนี้เหลือเริ่มทยอยขายมังคุดจนหนี้เหลือเพียงแค่ 3 แสนกว่าบาทเท่านั้น มังคุดที่เหลือในสวนทยอยออกรอบสอง คาดถ้าราคายังคงสูงแบบนี้ ปีนี้รายได้จากขายมังคุดน่าจะได้กว่า 5 ล้านบาทขึ้น ปิดจ็อบหนี้สินได้เลย
รู้หรือยังคะว่าชีวิตไม่สิ้น ก็ดิ้นต่อไป มันเป็นอย่างไร อย่างน้อยพวกเราทีมงาน จันลั่นทุ่ง ก็อยากให้ทุกคนได้เห็นถึงความมุมานะ ความพยายามที่คน ๆ เลือกที่จะสานฝันเพื่อตัวเองและครอบครัว ตั้งเป้าหมายและเดินตามมันไป โดยไม่มานั่งเสียใจกับโชคชะตาที่บางครั้งก็เล่นตลกร้ายกับเรา พวกเราของเป็นกำลังใจให้ลุงเทียนสู้ต่อไป รวมถึงทุกคนก็ขอให้สู้ ๆ นะคะ เราจะผ่านพ้นวิกฤตที่แย่นี้ไปด้วยกันค่ะ
