วิธีการ เพาะเมล็ด ผัก สวนครัว 8 ชนิด ที่ปลูกง่ายและโตเร็ว

มาดูวิธีการ เพาะเมล็ด ผัก สวนครัวในฉบับบ้านๆ ที่ใครก็ทำได้ทั้ง 8 ชนิดผ่านขั้นตอนที่แสนง่าย และเห็นผลได้เร็ว

วันนี้ (27 ม.ค.64) จันลั่นทุ่งเอาวิธีการเพาะเมล็ดมาฝาก สำหรับใครที่รู้สึกว่ามือร้อนเพาะอะไรก็ไม่งอกสักที วันนี้จันจัดให้เลยจ้า เป็นเทคนิคและวิธีการเพาะเมล็ดผักแต่ละชนิดให้งอก 100% มาฝากเพื่อนๆกันจ้า เริ่มต้นด้วยการเพาะเมล็ดผักสลัดกันก่อนเลยค่า

1 การ เมล็ด จำพวกผักสลัด เช่น กรีนโอ๊ค เรดโอ๊ค บัตเตอร์เฮด

การเพาะกล้าสลัดโดยใช้กล่องถนอมอาหารที่มีฝาปิดสนิท รองด้านในด้วยกระดาษชำระประมาณ 2 ชั้นแล้วพรมน้ำให้กระดาษเปียก และเทน้ำออก จากนั้นให้นำ เมล็ด สลัดมาโรยลงบนกระดาษชำระ โดยไม่ต้องพรมน้ำซ้ำ แล้วปิดฝากล่องให้สนิท ประมาณ 24 – 48 ชั่วโมงเมล็ดจะเริ่มงอกการกระตุ้นการงอกด้วยวิธีนี้จะทำให้เมล็ดที่เราเพาะมีเปอร์เซ็นต์การงอกและความสม่ำเสมอของการงอกสูงขึ้น

2 การ เพาะเมล็ด ผักบุ้ง

ให้เรานำเมล็ดผักบุ้งแช่น้ำก่อนประมาณ 6 – 12 ชั่วโมง นำเฉพาะ เมล็ด ที่จมน้ำไปเพาะ ผักบุ้งจะใช้เวลางอกประมาณ 5 – 14 วัน อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการงอก 18 – 25 องศาเซลเซียสอายุเก็บเกี่ยวประมาณ 20 – 25 วัน

3 การ เพาะเมล็ด ขึ้นฉ่าย

ให้เรานำเมล็ดแช่น้ำประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง แล้วห่อด้วยผ้า หรือใส่กล่องพลาสติกถนอมอาหาร ปิดฝาให้สนิทแล้วนำไปแช่ในตู้เย็นช่องธรรมดาประมาณ 24 ชั่วโมง แล้วนำมาเพาะตามปกติ จะทำให้ ขึ้นฉ่ายจะใช้เวลางอกประมาณ 5 – 7 วัน อุณหภูมิที่เหมาะสมต่อการงอกคือ 15 – 20 องศาเซลเซียสอายุเก็บเกี่ยวประมาณ 70 – 80 วัน

4 การ เพาะเมล็ด ผักชี

ให้เรานำเมล็ดมาห่อด้วยกระดาษหรือผ้าแล้วใช้ท่อพีวีซี กลิ้งคลึงเมล็ดให้แตกเป็น 2 ซีก แล้วนำไปแช่น้ำอุ่นประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง (หรือจนกว่าเมล็ดจะจม) แล้วนำไปเพาะตามปกติจะทำให้ผักชีงอกได้เร็วขึ้น ปกติผักชีจะใช้เวลางอกประมาณ 5 – 7 วัน ผักชีไทย อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 40 – 50 วัน ผักชีลาวอายุเก็บเกี่ยวประมาณ 55 – 60 วัน

5 การ เพาะเมล็ด ผักชีฝรั่ง นำเมล็ดแช่น้ำอุ่นประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง แล้วนำไปเพาะตามปกติ โดยจะใช้เวลางอกประมาณ 5 – 7 วัน อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 100 – 120 วัน

6 การ เพาะเมล็ด พืชตระกูลแตง ได้แก่ แตงกวา, แตงโม, แคนตาลูป, เมล่อน, แตงไทย, ฟักทอง, น้ำเต้า ฯลฯ นำเมล็ดมาแช่น้ำอุ่นประมาณ 40 – 50 องศาเซลเซียส โดยแช่ทิ้งไว้ประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง หรือจนกว่าเมล็ดจะจมน้ำ จากนั้นให้นำเมล็ดมาเพาะในกล่องพลาสติกถนอมอาหารโดยวางรองด้วยกระดาษชำระพรมน้ำให้ชุ่ม จากนั้นปิดฝาให้สนิท นำไปตากแดดในช่วงเช้าประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง จะทำให้เมล็ดงอกเร็วขึ้น โดยปกติจะใช้เวลาในการงอกประมาณ 4 – 7 วัน เมื่อเมล็ดเริ่มงอกก็นำไปเพาะลงวัสดุปลูกต่อไป

-แตงโมเปลือกลาย, แตงโมเปลือกดำ อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 35 – 40 วันหลังจากดอกบาน

-แตงไทย อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 50 – 55 วันหลังจากหยอดเมล็ด

-แตงกวา อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 6 – 7 วันหลังดอกบาน

-เมล่อน, แคนตาลูป อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 40 – 60 วันหลังผสมเกสร (แล้วแต่ชนิดของสายพันธุ์)

7 การ เพาะเมล็ด พืชกลุ่มพริก, มะเขือ, มะเขือเทศ

ให้เรานำเมล็ดมาแช่น้ำอุ่นประมาณ 50 องศาเซลเซียส โดยแช่ทิ้งไว้ประมาณ 3 – 4 ชั่วโมง หรือจนกว่าเมล็ดจะจมน้ำ จากนั้นให้นำเมล็ดมาเพาะในกล่องพลาสติกถนอมอาหารโดยวางรองด้วยกระดาษชำระพรมน้ำให้ชุ่ม จากนั้นปิดฝาให้สนิท นำไปตากแดดในช่วงเช้าประมาณ 2 – 3 ชั่วโมง จะทำให้เมล็ดงอกเร็วขึ้น โดยปกติจะใช้เวลาในการงอกประมาณ 5 – 10 วัน เมื่อเมล็ดเริ่มงอกก็นำไปเพาะลงวัสดุปลูกต่อไป

-มะเขือเทศ อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 70 – 80 วันหลังจากหยอดเมล็ด พริก อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 50 – 60 วันหลังจากหยอดเมล็ด มะเขือเปราะ อายุเก็บเกี่ยวประมาณ 50 – 60 วันหลังจากหยอดเมล็ด

8 การ เพาะเมล็ด ปวยเล้ง

เป็นพืชที่หลายคนคิดว่าเพาะได้ยาก แต่จริงๆแล้วการเพาะปวยเล้งไม่ยากอย่างที่คิดแต่อาจจะใช้เวลา และเทคนิคยุ่งยากกว่าเมล็ดพืชชนิดอื่น โดยมีขั้นตอนดังนี้

-นำเมล็ดปวยเล้งไปแช่ในน้ำเย็นประมาณ 1 คืน แต่อย่านานกว่านั้นเพราะเมล็ดจะเน่าได้

-นำกล่องพลาสติกถนอมอาหารที่มีฝาปิดมิดชิด รองด้านในด้วยกระดาษชำระประมาณ 2 – 3 ชั้น แล้วพรมน้ำให้พอชุ่มทั่วกระดาษแต่อย่าให้ท่วมกระดาษมากเกินไป ให้เทน้ำที่ค้างออกด้วยนะคะ

-นำเมล็ดปวยเล้งที่แช่น้ำมาแล้วประมาณ 3 – 5 ชั่วโมงมาล้างด้วยน้ำสะอาด แล้วนำเมล็ดไปโรยลงบนกระดาษชำระในกล่องพลาสติกถนอมอาหารปิดฝาให้สนิทแล้วนำไปแช่ในตู้เย็น (ช่องแช่ปกติ) อุณหภูมิของตู้เย็นปกติจะอยู่ที่ประมาณ 4 – 7 องศา C ซึ่งเป็นอุณหภูมิทีเหมาะต่อการงอกของเมล็ดปวยเล้งอยู่แล้ว

-ประมาณ 7 – 14 วัน ปลายเมล็ดปวยเล้งจะเริ่มแตกออก และมีปลายรากโผล่ออกมาจากเมล็ด จึงสามารถนำ เมล็ด ที่มีรากงอกออกมานั้นไปเพาะลงวัสดุปลูกได้ค่ะอายุเก็บเกี่ยวปวยเล้งประมาณ 35 – 45 วัน (นับจากวันปลูก)

สำหรับท่านใดมีเทคนิควิธีการ เพาะเมล็ด ที่ดีกว่านี้สามารถมาแบ่งปันให้กับเพื่อนๆได้นะครับ เรียบเรียงโดยเกษตรรุ่นใหม่ไม่จน

ขอบคุณความรู้จาก เพจสอนปลูกผักไฮโดรโปนิกส์