จากที่มีผู้ใช้เฟสบุ๊กรายหนึ่ง โพสต์ภาพ พร้อมกับข้อความเรื่องการปล่อยน้ำเสียลงทะเลใน จ.สงขลา
ทีมข่าวจันลั่นทุ่ง ได้ติดต่อไปยังสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 16 จ.สงขลา เพื่อสอบถามเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้น ละได้พูดคุยกับคุณคนึงนิจ ศรีสมัย รักษาราชการแทนผู้อำนวยการสำนักงานสิ่งแวดล้อมภาคที่ 16 เปิดเผยกับทีมข่าวจันลั่นทุ่งว่า ปกติคลองสำโรงเป็นคลองปิดไม่ได้มีการใช้งาน ปากคลองที่ออกสู่ทะเลอ่าวไทยจะมีสันทรายปิดอยู่ แต่ในช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมามีมรสุมเข้าทาง อบจ.สงขลา ได้มีการเข้ามาขุดสันทราย เพื่อป้องกันน้ำท่วม แต่เมื่อเกิดคลื่นซัด ทำให้สันทรายที่ปิดปากคลองสำโรงเกิดแตก ทำให้น้ำเสียจากคลองสำโรงไหลลงสู่ทะเล
หลังจากมีการแจ้งเรื่องดังกล่าวเข้ามา ตนและเจ้าหน้าที่ได้ลงพื้นที่ไปตรวจสอบแล้วในวันที่ 16 พ.ย. 64 – 17 พ.ย. 64 ที่ผ่านมา และได้มีการตรวจวัดคุณภาพน้ำในคลองสำโรง 5 จุด คือบริเวณปากคลองที่จะไหลลงทะเลอ่าวไทย กับบริเวณสะพานเก้าเส้งและบริเวณหาดชลาทัศน์ 3 จุด เพื่อนำไปตรวจวิเคราะห์ในห้องแล็ป เมื่อตรวจทั้ง 2 จุดแล้ว มีค่าความเค็มเป็นศูนย์ เพราะน้ำจากคลองสำโรงไหลลงมาในทะเลเยอะ
แต่ทางเจ้าหน้าที่ได้ส่งทีมเพื่อลงตรวจสอบน้ำเสียบริเวณดังกล่าว เพื่อติดตามสภาพของน้ำ เพื่อส่งไปในห้องแล็ปเพื่อตรวจสอบค่าน้ำเสีย โดยค่าน้ำเสียจากห้องแล็ปจะออกมาประมาณวันที่ 24-25 พ.ย. 64 ที่จะมาถึง
ปัญหานี้เกิดขึ้นมาหลายปี เพราะชุมชนที่รุกล้ำเข้ามาในคลองสำโรงอยู่เรื่อยๆ และมีการทิ้งขยะ น้ำเสียจากชุมชนลงคลอง จนคลองสำโรงกลายเป็นคลองที่มีน้ำเสียที่สุด ใน จ.สงขลา ทางจังหวัดได้มีการพยายามที่จะสร้างท่อเพื่อรวบรวมน้ำเสียจากคลองสำโรงไปบำบัด แต่การที่จะสร้างท่อได้ ต้องมีการเซ็นยินยอมจากชาวบ้านในชุมชนก่อน