หลวงพี่ปันสุขจัด ต๋ำส้มตุ๊เจ๊า ขาย ส้มตำ 10 บาทให้ชาวบ้านสู้ภัยโควิด

แจกแล้วเกรงใจ จัดให้ราคาถูก หลวงพี่ที่พะเยาปันสุขช่วยชาวบ้านเปิด ต๋ำส้มตุ๊เจ๊า ขาย ส้มตำ ถูกกว่าทุน 10 บาททุกถุง หวังบรรเทาทุกข์ชาวบ้านช่วงวิกฤตโควิด

ครั้นจะแจกให้ชาวบ้านเขาก็เกรงใจ เลยจัดให้ในราคาถูก หลวงพี่ วัดหัวข่วงแก้ว ลงครัวตำ ส้มตำ ในชื่อ ต๋ำส้มตุ๊เจ๊า จำหน่ายให้ชาวบ้านในราคาถูกขาดทุน ! เพราะพระก็เข้าใจโยมว่าต้องลำบากมากช่วง โควิด ยิ่งระลอกนี้อ่วมกันทั้งประเทศ ภายใต้แนวคิดพระต้องเป็นทั้งผู้รับและผู้ให้ในยามที่ญาติโยมเดือดร้อน

วันนี้ (2 มิ.ย. 64) ทีมงาน จันลั่นทุ่ง จะพามาดูความรัก ความเกื้อกูลสามัคคีกันระหว่างพระสงฆ์กับโยมในช่วงที่โควิดระบาด ที่วัดหัวข่วงแก้ว ตำบลเวียง อำเภอเมือง จังหวัด พะเยาค่ะ เพราะที่นี่มีส้มตำแสนอร่อยเลิศ รสพระทำ ! เพราะหลวงพี่ท่านตำส้มตำขายเพียงถุงละ 10 บาท คุณพระช่วยจริง ๆ

ทางพระครู วีระ พญานุวัฒน์ รองเจ้าอาวาสวัดหัวข่วงแก้วเปิดเผยว่าว่า การทำ ต๋ำส้มตุ๊เจ๊า 10 บาทในครั้งนี้เพื่อเป็นการช่วยเหลือญาติโยมเป็นอันดับแรก อีกทั้งยังเป็นการกระตุ้นความสัมพันธ์ระหว่างวัดกับชุมชน สาเหตุที่ทำส้มตำสิบบาทเพราะว่าที่ผ่านมาทางวัดทำเป็นโรงทานแจกฟรีทำให้ญาติโยม แต่พวกชาวบ้านก็ลำบากใจเพราะต้องการนำไปฝากญาติ ๆ จำนวนหลายชุดแต่ก็ได้ไปชุดเดียว แต่ถ้าหากทางวัดทำอาหารจำหน่ายในราคา 10 บาท ญาติโยมก็สามารถซื้อไปได้ครั้งละหลายชุดตามที่ต้องการ จึงกลายเป็นที่มาของส้มตำตุ๊เจ้า 10 บาทซึ่งถือเป็นงานสาธารณะสงเคราะห์ของวัด โดยมีสโลแกนว่า “ราคาเกื้อกูล ขาดทุนช่างมัน 10 บาทเท่านั้น” โดยมีเมนูหลายหลายทั้งส้มตำมะละกอ ตำมะม่วงและข้าวไข่เจียวเป็นกล่องให้ชาวบ้านเลือกเต็มที่

ซึ่งตอนนี้ได้รับผลตอบแทนดี คิดว่าต่อไปทางวัดก็จะจัดกิจกรรมแนวนี้เหมือนเดิมในทุกวันศุกร์ของทุกเดือนโดยให้ญาติโยม “ตำเอง กินเอง” 10 บาทเพื่อให้ญาติโยมมีส่วนร่วมมาตำเองได้เลยโดยทางวัดจะเตรียมวัตถุดิบไว้ให้เสร็จสรรพ ซึ่งการทำงานสาธารณะสงเคราะห์ของวัดในครั้งนี้ก็ได้ร่วมด้วยช่วยกันทั้งพระลูกวัดและญาติโยมคณะศรัทธาวัดหัวข่วงแก้ว ได้ร่วมไม้ร่วมมือช่วยกันทั้งนำวัตถุดิบที่บ้านทั้งมะละกอและมะม่วง ไข่ไก่ ข้าวสาร มาร่วมกันทำบุญในครั้งนี้ด้วยและทางวัดได้มีการตั้งจุดคัดกรองเพื่อเป็นการป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด -19 อีกด้วยเพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ต้องระวังเป็นอย่างมาก

หลวงพี่ยังบอกอีกว่าเงินที่ได้มาจากการขายของทั้งหมดก็จะเอามาหมุนเวียนซื้อวัตถุดิบที่จำเป็นต้องซื้อหามาเพิ่มด้วยนา แหม่ ถือเป็นเรื่องราวดี ๆ ที่สะท้อนให้เห็นถึงวัฒนธรรมของคนไทย ที่วัดและชุมชนสามัคคี รักใคร่กันกลมเกลียวกัน เท่านี้เราก็จับมือกันรอดผ่านวิกฤตโควิดไปได้หนึ่งขั้นแล้ว