เกษตรกรมือใหม่เศร้า ซื้อ หมูพันธุ์ ราคาถูกจากออนไลน์ สุดท้ายไม่รอดตายยกเล้า

สาวเกษตรกรมือใหม่อยากขอเตือน ซื้อ หมูพันธุ์ ทางออนไลน์ทุนต่ำมาเลี้ยง ไม่กี่วันหมูติดเชื้อตายยกคอก สูญเงินนับแสน

เรื่องราวโรคระบาดในสัตว์เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ทำให้เกษตรกรปวดหัวปวดใจที่สุด ถ้ารักษาได้ทันก็ถือว่าโชคดีไปเพราะไม่ต้องสูญทุนสูญแรงที่ลงไป อย่างเช่นโรค ลัมปีสกิน ที่เป็นโรคตุ่มในวัวที่กำลังระบาดอย่างหนักในพื้นที่ทางภาคอีสาน แต่ตอนนี้ไม่ใช่เฉพาะวัวแล้ว ตอนนี้มีโรคระบาดในหมูอย่าง ไวรัสเพิร์ม ที่กลับมาเล่นงาน หมู อีกแล้วค่ะ เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นที่ กาฬสินธุ์ มีเกษตรกรสาวมือใหม่อยากเลี้ยงหมูเป็นอาชีพเสริม จึงสั่ง หมูพนธุ์ มาจากคนขายหมูในโลกออนไลน์ สุดท้ายได้ไม่คุ้มเสียดเลี้ยงหมูได้ไม่กี่วันพบว่าหมูติดเชื้อ เพิร์ส ต้องทำลายตายยกเล้า เสียเงินนับแสนไร้การรับผิดชอบจากคนขาย

วันนี้ (25 พ.ค. 64) ทางปศุสัตว์อำเภอสหัสขันธ์ จังหวัดกาฬสินธุ์ ได้นำเจ้าหน้าที่เข้าทำลายลูกหมูวัย 2 เดือน จำนวน 38 ตัว ที่ติดเชื้อ ไวรัสPRRS หรือเพิร์ส ด้วยการฉีดยา ทำการฆ่าเชื้อและฝังกลบ เพื่อป้องกันการแพร่กระจายเชื้อในพื้นที่ อ.สหัสขันธ์ จ.กาฬสินธุ์ เป็นที่เรียบร้อย โดยทางว่าที่ร้อยตรีหญิงกนกวรรณ ภูขยัน เจ้าของเล้าหมูได้เล่าเหตุการณ์ให้ฟังว่า ตนเป็นเกาตรกรมือใหม่ อยากหารายได้เสริมด้วยการเลี้ยงหมู ลงทุนทำโรงเลี้ยงแล้วเสร็จสรรพ

จึงหาข้อมูลในการเลี้ยงหมูจากช่องทางออนไลน์ พร้อมขอคำปรึกษาจากปศุสัตว์ จากนั้นไปเจอผู้ขาย หมูพันธุ์ ราคาถูกกว่าท้องตลาดจึงตัดสินใจซื้อ หมูพันธุ์ มา 50 ตัว จ่ายเงินไป 84,000 บาท และสั่งซื้อหัวอาหารไว้อีก เป็นเงินร่วมแสนบาทที่ลงทุนไป ซึ่งเป็นเงินที่ตนเก็บออมไว้ แต่เลี้ยงไป 5 วัน ลูกหมูก็เริ่มแสดงอาการป่วย และตายไปวันละตัว โดยหมูจะมีอาการไอ ตามตัวมีจุดเขียวช้ำ เป็นจ้ำแดง มีแผลที่หัวนม มีอาการชักเกร็ง ก่อนจะตาย ซึ่งแรก ๆ ก็ฝังกลบ เพราะรักษาไม่หาย เมื่อติดต่อไปถึงแม่ค้าที่เอาหมูมาขายให้ก็บอกให้เอายาตัวนั้นตัวนี้มาฉีด ก็ทำตามแต่ก็ยังตายอยู่ คนขายบอกว่ารับประกัน 7 วัน ก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนล่วงมาถึงวันที่ 20 พ.ค. 64 จึงได้แจ้งไปยังเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์อ.สหัสขันธ์ และนำเลือดไปตรวจก่อนจะพบว่าเป็นหมูติดเชื้อ PRRS หรือเพิร์ส ในสุกรระยะฝักตัว ได้ยินอย่างนี้ก็ตกใจมาก เลยทำใจอยู่พักใหญ่ ๆ จึงตัดสินใจทำลายหมูเพื่อจบปัญหาและไม่ให้เกิดการแพร่เชื้อให้กับฟาร์มอื่นด้วย

เจ้าของเล้าหมูเล่าให้ฟังเสริมว่า ยอมรับเลยว่าตอนนั้นอยากเลี้ยงหมู สานฝันทำอาชีพเสริมมาก โดยมองที่ราคาถูกและพร้อมเลี้ยงได้เลย แต่เมื่อมาดูรายละเอียดในภายหลัง แหล่งที่มาของหมูมาจากพื้นที่ติดเชื้อรุนแรง อีกทั้งเป็นพื้นที่ห้ามขนย้ายสัตว์ ทางคนขายเพิ่งมายอมรับภายหลังว่าลักลอบขนย้ายมาขายให้ ตอนนี้เงินลงทุนก็ไม่ได้คืน เงินชดเชยไม่ได้รับ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ปศุสัตว์ได้แจ้งไว้ก่อนแล้วก็เข้าใจดี เหมือนถูกหลอกซื้อหมูติดเชื้อมาขายให้ เสียใจมากซึ่งไม่น่าทำกันได้ และเมื่อข่าวออกไปมีเกษตรกรคนอื่น ๆ มาให้กำลังใจ

บ้างก็มาเล่าให้ฟังว่าพวกนี้ทำเป็นขบวนการมีพฤติกรรมไล่กว้านซื้อหมูที่ป่วยติดเชื้อที่ฟาร์มใหญ่ ๆ เอามาย้อมแมวขายที่สำคัญมีคนหลงเชื่อมากมายเพราะราคาที่ถูกจูงใจจึงอยากฝากเตือนเกษตรกรทานอื่น ๆ อย่าหลงเชื่อกลุ่มหลอกลวงนี้ นอกจากจะเสียเงินโดยสูญเปล่าแล้ว ยังจะต้องเสี่ยงเป็นพาหนะนำเชื้อโรคไปกระจายในพื้นที่ตัวเองเดือนร้อนกันเป็นวงกว้าง ยอมรับว่าเสียใจมาก ถือเป็นบทเรียนราคาแพง และคงไม่คิดจะเลี้ยงสุกรต่ออีกแล้ว

พวกเราทีมงาน จันลั่นทุ่ง ขอย้ำเตือนเกษตรกรมือใหม่มือเก่าทั้งหลายนะคะ จะซื้อสัตว์มาเลี้ยงเพื่อการเกษตรให้ปรึกษาปศุสัตว์ในพื้นที่ของตนให้ดี ศึกษาหาความรู้ให้แน่น ๆ รวมถึงแหล่งซื้อสัตว์ก็ขอให้เป็นที่ที่มีมาตรฐาน อย่าเห็นแก่เป็นของถูกเน้นชัวร์ไว้จะได้ไม่เสียใจทีหลังค่ะ อย่างไรก็ตามเราก็ขอเป็นกำลังใจและขอบคุณคุณกนกวรรณเจ้าของเล้าหมูที่ออกมาเตือนภัยพี่น้องเกษตรกรด้วยค่ะ