มัลเบอร์รี่ หรือเรียกอีกอย่างว่า หม่อน เป็นผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวหวาน มีความเป็นเอกลักษณ์ และนอกจากรสชาติที่อร่อยแล้วนั้น ยังเป็นที่ถูกปากของใครหลายคน ก็ยังมีประโยชน์ต่อร่างกายมากมายอีกด้วย วันนี้เราจะพาทุกคนไปดูวิธีการปลูกมัลเบอร์รี่ ให้มีผลผลิตเก็บเกี่ยวได้ตลอดปี
พันธุ์มัลเบอร์รี่หรือหม่อนที่นิยมปลูก
สำหรับพันธุ์มัลเบอร์รี่ที่นิยมปลูกในบ้านเรา จะมีด้วยกันทั้งหมด 3 ชนิด ได้แก่ กำแพงแสน 84 บุรีรัมย์ 60 และ เชียงใหม่ 60 ซึ่งพันธุ์เหล่านี้จะเหมาะกับสภาพภูมิอากาศในบ้านเรา จึงปลูกง่ายและเติบโตให้ผลผลิตได้ดี
วิธีปลูกมัลเบอร์รี่
1. หาซื้อต้นพันธุ์จากร้านขายต้นไม้ เพื่อทำการปลูก
2. ให้ปลูกเป็นแนวยาว โดยต้องเว้นระยะการปลูก เผื่อเวลาที่มัลเบอร์รี่โตจะได้มีพื้นที่สำหรับพุ่ม
3. จากนั้นให้รองก้นหลุมด้วยปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยคอกอัตราส่วน 10 กิโลกรัมต่อหลุม ใส่ปูนขาว 1 กิโลกรัมต่อหลุม และปุ๋ยสูตร 15-15-15 อัตรา 250 กรัมต่อหลุม แล้วคลุมเคล้าส่วนผสมให้เข้ากัน กลบด้วยหน้าดินโดยให้พูนขึ้นมาเล็กน้อยก็พอ
4. เมื่อเตรียมมัลเบอรร์รี่แล้ว ขุดหลุมเตรียมดิน นำต้นลงหลุมกลบดินให้แน่น รดน้ำให้ชุ่ม
5. และในระหว่างที่ปลูก ควรที่จะใส่ปุ๋ยหมัก หรือปุ๋ยสูตรอยู่สม่ำเสมอ และมัลเบอร์รี่จะให้ผลผลิตเต็มที่ตอนอายุครบ 2 ปี
ผลผลิตที่ได้ : หากต้นหม่อน หรือต้นมัลเบอร์รี่มีความสมบูรณ์จะให้ผลผลิต ประมาณ 1.5-35 กิโลกรัมหรือประมาณ 750-1,850 ผลต่อครั้งต่อต้นเลยทีเดียว
ทั้งนี้ มัลเบอร์รี่นั้น นอกจากจะให้ผลผลิตที่ดีแล้ว สรรพคุณด้านสุขภาพมีมากอีกด้วย
โดยสรรพคุณของมัลเบอร์รี่ มีดังนี้
1. ช่วยในเรื่องระบบหมุนเวียนเลือด ให้ทำงานได้ดียิ่งขึ้น ซึ่งสำหรับมัลเบอร์รี่นั้นเป็นผลไม้ที่เปี่ยมด้วยธาตุเหล็กอย่างน่าทึ่ง ซึ่งสารอาหารดังกล่าว จะทำหน้าที่กระตุ้นการสร้างเม็ดเลือดแดง ช่วยการไหลเวียนเลือด
2. มัลเบอร์รี่มีสรรพคุณช่วยทำให้เส้นประสาทตาดี ทำให้สายตาแจ่มใส
3. ลดความเสี่ยงโรคหัวใจ ในมัลเบอร์รี่จะมีสาร Quercetin และ Kaempferol ซึ่งเป็นสารในกลุ่มฟลาโวนอยด์ ที่จะเข้าไปป้องกันการเกิดลิ่มเลือดในหลอดเลือด ลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจ
4. ผลมัลเบอร์รี่มีรสเปรี้ยวหวานเย็น มีสรรพคุณช่วยดับร้อน คายความร้อนรุ่ม ช่วยขับลมร้อน ช่วยบรรเทาอากากระหายน้ำ ทำให้ชุ่มคอ และทำให้ร่างกายชุ่มชื่น
