ดีต่อใจ! ใช้พื้นที่หลังห้องพัก ปลูกผักกินเอง แบบปลอดภัยไร้สาร 100%

สาววัย 27 ใช้ชีวิตหลังเรียนจบ ตัดสินใจกลับบ้านทำเกษตรอย่างจริงจัง ทำฟาร์มสุขปลูกผัก แบบไร้สารเคมี

สำหรับลูกเพจบางคนที่อยากลองปลูกผัก แต่คิดว่าพื้นที่ที่มีอยู่จะพอหรือเปล่า โดย วันนี้จันลั่นทุ่ง ได้มีโอกาสสัมภาษณ์ คุณพี่พัชรีพร บุญสา อายุ 27 ปี อาชีพ ข้าราชการ สำนักงานจังหวัดนครราชสีมา (พลอย) เล่าถึงจุดเริ่มต้นปลูกผักในบริเวณเล็กที่บ้าน ซึ่งเริ่มต้นจากอยากทานผักที่ปลอดภัย ไม่มีสารเคมี ส่วนตัวแล้วเป็นคนชอบเกษตรอยู่แล้วทั้งคู่ และเห็นว่าพื้นที่หลังบ้านพักข้าราชการไม่ได้ใช้ทำอะไร จึงเริ่มใช้พื้นที่ตรงนี้ในการปลูกผักที่อยากทาน หรือผักที่อยากทดลองปลูก ปลูกโดยใช้พื้นที่หลังบ้านพักข้าราชการ พื้นที่โดยประมาณ 2*20 เมตร

ซึ่งพี่เบิร์ด ( แฟน ) เป็นคนที่มีความรู้เรื่องเกษตร เขาจะศึกษาเรื่องดินที่เหมาะสมกับการปลูกผัก คิดค้นน้ำหมักสำหรับบำรุงพืช และน้ำหมักไล่แมลงสูตรต่างๆ เพื่อนำมาใช้กับแปลงผักของเรา จากนั้นได้ลองโพสต์ในกลุ่มเฟซบุ๊กขายของออนไลน์ในจังหวัด โดยเราการันตีว่า ผักเราปลอดสารเคมี 100% เพราะทุกขั้นตอนการปลูกเราดูแลเองทั้งหมด จึงทำให้มีพี่ๆ สนใจสั่งซื้อกันเรื่อยๆ จนเกิดเป็น “ฟาร์มสุขหลังห้อง” ที่เป็นรายได้เสริมนอกจากงานประจำ ปัจจุบันเพิ่งเริ่มขายได้ยังไม่ถึงเดือน ตอนนี้รายได้จากการปลูกผักหลังห้อง มีมากกว่า 5,000 บาทแล้วค่ะ

การที่เรามาทำเกษตร ปลูกผักแบบนี้ รู้สึกไม่เคยท้อเลยค่ะ เพราะตนคิดว่าเป็นการปลูกเพื่อไว้ทานในครอบครัวเหลือทานก็แบ่งปัน แต่พอเริ่มปลูกไปเรื่อย ๆ เราได้มีโอกาสนำไปโพสต์ขาย และมีคนสนใจทำให้เรารู้สึกภูมิใจที่ได้ปลูกผักที่ปลอดภัยแบ่งปันให้คนอื่น ไปดูแลต่อพร้อมทั้งแบ่งปันวิธีการปลูกให้ผู้รับไปได้ดูแลอย่างถูกวิธี ทั้งนี้ ปกติที่บ้านเมื่อก่อนไม่ได้ทำเกษตร เราขายของที่กรุงเทพฯ แต่พอเรียนจบก็ขอพ่อกับแม่กลับมาอยู่บ้าน โดยเรามีพื้นที่เล็กๆ อยู่อำเภอเทพารักษ์ จังหวัดนครราชสีมา ซึ่งพ่อกับแม่ได้ปลูกต้นลำไย ปาล์มน้ำมัน ขนุน และผักผลไม้ผสมผสานไว้อยู่แล้ว จึงได้กลับมาอยู่บ้านและทำสวนเกษตรอย่างจริงจัง โดยเราเน้นทำสวนแบบปลอดสารพิษไร้สารเคมีอยู่แล้ว และตนเองได้รู้จักกับแฟนนที่มีใจรักทำเกษตรมีแนวคิดทางเดียวกัน ที่จะปลูกพืชแบบปลอดภัย จึงได้พี่เค้ามาช่วยดูแลสวนผลไม้ที่บ้านเป็นหลักและพลอยก็ทำงานประจำควบคู่กันไปด้วยค่ะ

ในการปลูกผักในเข่งและถุงดำ จะง่ายต่อการดูแลมากกว่าปลูกลงดิน โดนส่วนตัวแล้วตนคิดว่า การปลูกแบบนี้ใช้พื้นที่น้อย ไม่ต้องเตรียมแปลง แค่เราปรุงดินให้พืชได้รับสารอาหารที่เพียงพอก็ทำให้ผักของเราสวยงามและน่ารับประทาน อีกทั้ง ยังง่ายต่อการขายด้วย เพราะถ้าลูกค้าชอบเราก็ยกให้ลูกค้าไปดูแลต่อทั้งเข่งเลย

ในตอนนี้ ตนปลูกผักอยู่หลายชนิดเลย ทั้งผักเคล (บูลเคล สกาเลตเคล ไดโนซอร์เคล) ผักสลัด (ผักกาดหอม มินิคอสเรดคอส) ผักกาดหอมอิตาลี

กวางตุ้งดอกไม้ไฟ ผักกาดม่วง กะหล่ำดอกสีม่วง กะหล่ำดาว กะหล่ำเจดีย์ เป็นต้น โดยเทคนิคการปลูก เริ่มตั้งแต่เลือกเมล็ดพันธุ์ที่เหมาะกับสภาพแวดล้อมในแต่ละช่วง เลือกวัตถุดิบในการเพาะกล้าให้เหมาะสม โดยเราเลือกใช้พีชมอส และวิธีการเพาะด้วยกระดาษทิชชู่ในระบบปิด แล้วแต่ชนิดของพืช

โดยเมื่อพืชเริ่มงอกจากเมล็ด ก็เริ่มให้พืชได้รับแสงแดดอ่อนๆเพื่อไม่ให้ต้นพืชยืดจนเกินไป จากนั้นเมื่อพืชได้อายุประมาณ 7 วันก็นำมาเพาะในถาดเพาะ ด้วยพีชมอสผสมมูลไส้เดือน และเมื่อพืชโตระยะ 15 วัน นำออกจากถาดเพาะลงถุงดำไซซ์ขนาดเล็ก

โดยมีการปรุงดินด้วยใบก้ามปู มูลสัตว์ แกลบดิบเก่า แกลบดำและมะพร้าวสับ จากนั้นเราจะใช้น้ำหมักในเพิ่มจุลินทรีย์ให้กับดินก่อนนำต้นกล้าลงปลูกในเข่งสำหรับการดูแลในระยะพืชกำลังเติบโต เราใช้น้ำหมักในการฉีดพ่นทุกเช้า และรดน้ำ เช้า-เย็น สำหรับในตอนกลางคืนเราจะใช้น้ำหมักสูตรไล่แมลงในการฉีดพ่นเพื่อไล่แมลงในตอนกลางคืน

สำหรับคนที่สนใจ ตอนนี้ตนยังไม่มีหน้าเพจเฟซบุ๊กสำหรับเอาไว้ขายผักโดยเฉพาะค่ะ แต่ตอนนี้สามารถติดตามสั่งซื้อต้นกล้า และสั่งซื้อผักสำหรับไว้ทาน หรือสั่งซื้อลำไยและผลไม้จากสวนที่บ้าน ได้ที่ Facebook : Patchareeporn Bunsa โดยในอนาคตเราจะมีขายน้ำหมักสูตรที่คิดค้นขึ้นมาเอง และดินที่เหมาะสำหรับการปลูกพืชด้วยค่ะ