หนีชีวิตชาวเมือง สู่การกลับบ้าน มาทำการเกษตร สร้างรายได้ไม่ธรรมดา

ย้ายตนเองและครอบครัว มาอยู่บ้านต่างจังหวัด พร้อมใช้เวลาว่าง ปลูกผัก ขาย สู่การเป็นทำเงินอย่างงาม

บางครั้งการมาทำงานในเมืองกรุง ก็อาจทำให้ได้งานดีเงินดีจริง แต่ใช่ว่าจะดีเสมอไป เพราะมีสภาพอากาศที่อาจทำให้เสียสุขภาพได้ ยิ่งมีลูกมีครอบครัวยิ่งน่าเป็นห่วง พอบางคนกลับบ้านมาอยู่ต่างจังหวัด หลายคนก็กลัวจะไม่มีงาน ไม่มีเงิน ต้องมาดูเธอคนนี้ จากการที่เคยทำงานขนส่งน้ำมันในเมืองหลวง สู่ชาวเกษตรกรที่ปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์ สร้างรายได้หลักหมื่นต่อเดือน

วันนี้ จันลั่นทุ่ง ได้มีโอกาสพูดคุยกับ คุณกนกอร หนุมชู หรือคุณทรายเจ้าของฟาร์มฮักบ้านหลังเขา ที่จุดเริ่มต้นเคยทำงานเป็นพนักงาน ในบริษัทขนส่งน้ำมันแห่งหนึ่ง แบบเดินทางอยู่ตลอด ซึ่งทำงานชนิดจนถึงขั้นไม่สบายเข้าโรงพยาบาลเลยทีเดียว แต่ก็ยังทำงานแบบเดิมอยู่ตลอด และไม่มีจุดตรงไหนที่จะคิดหันมาทำเกษตรเลย แต่มาวันหนึ่ง เมื่อตนเองเริ่มมีครอบครัว มีสามี มีลูกน้อยถึง 2 คน ก็เกิดการฉุกคิดขึ้นมาได้ว่า การอาศัยอยู่ในตัวเมืองกรุงนั้น ที่มีสภาพแวดล้อมไม่ค่อยสู้ดีนัก ก็เริ่มห่วงสุขภาพลูก จึงได้ถอยมาอาศัยอยู่บ้านสามีในจังหวัดสุราษฎร์ธานี เพื่อให้อยู่ใกล้ชิดธรรมชาติ แถมมีพื้นที่เล่นให้ลูกอีกด้วย

แล้วเมื่อมาอยู่บ้านกับลูก ก็เกิดความคิดหาทำกิจกรรมร่วมกับลูก จึงได้ตัดสินใจปลูกผัก โดยเริ่ม ปลูกผัก ลงดินไปเรื่อยๆ แต่เห็นว่าไปไม่รอด ก็เลยลองหาวิธีแก้ไขจนมาเจอการ ปลูกผักไร้ดิน หรือการปลูกผักแบบไฮโดรโปนิกส์ เพราะเห็นว่าทางบ้านนั้น มีความพร้อมอยู่มาก อย่างน้ำก็ดี อากาศก็ดี และยังมีไม้ที่ใช้ทำแปลงผักได้ จึงได้ทดลองทำตามที่ศึกษาจากยูทูบ ตอนแรกๆพ่อสามีก็ยังไม่เชื่อว่า ปลูกผักอะไรไม่ใช้ดิน จนเราทำให้เขาดูว่าทำขี้นได้จริง ไม่นานพ่อสามีก็เริ่มเข้ามาช่วยสร้างโรงเรือนต่อยอดความคิด เพียงเดือนเดียวก็ขยายโรงเรือนไปเรื่อยๆ

จากโรงเรือนหลังบ้านที่วางลังได้ 40 ลัง สู่การขยายโรงขนาดใหญ่ที่วางได้ถึง 100 ลัง ซึ่งตอนนี้ทางคุณทรายได้เล่าว่า ภายในฟาร์มที่นอกจากโรง ปลูกผักสลัด นั้น ยังมีการเพาะเห็ดนางฟ้าเสริมเข้าไปด้วย ที่ทำถึง 6,000 – 10,000 ก้อน ชนิดแบบเก็บขายได้อยู่ตลอด และยังมีการเลี้ยงไก่ไข่ขาย เพื่อเก็บขายไปได้ด้วย โดยเมื่อได้พูดคุยกับคุณทรายก็พบว่า ตั้งแต่หลังลาออกจากการทำงานในเมืองกรุง มาทำงานที่เกี่ยวกับเกษตรกรนั้น คุณทรายก็พบว่า มีความสุขอีกแบบ ที่ไม่เคยเห็นในช่วงทำงานแบบเมืองกรุง อย่างการใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ ไม่เร่งรีบ อยู่อย่างสบายๆ และได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตาใกล้ชิดกับครอบครัว

ถ้าถามว่าพอปลูกขึ้นมาแล้วสามารถขายได้ไหม ทางคุณทรายก็เล่าว่า ก็สามารถขายได้ เพราะ การตลาดของตนเองนั้นก็ทำเน้นขายให้กับลูกค้ารายย่อยที่อยู่บริเวณใกล้เคียง และกลุ่มลูกค้าเฉพาะกลุ่มที่ชื่นชอบรักในสุขภาพ ชื่นชอบในการกินผักสลัด แต่ยังไม่ได้ทำถึงขั้นส่งออกให้พ่อค้ารายใหญ่ เพราะต้องทำหน้าที่แม่เลี้ยงลูกไปพร้อมอยู่ด้วย แต่เพียงทำแค่นี้ก็ยังสามารถทำรายได้สุดดี อย่างการปลูกผักสลัด สร้างรายได้กว่า 10,000 ต่อเดือน การเพาะเห็ดนางฟ้า สร้างรายได้ 30,000 ต่อเดือน และ โรงเลี้ยงไก่ขาย สร้างรายได้ 3,000 ต่อเดือน เรียกได้ว่าเป็นกิจกรรมที่เริ่มทำกับลูกและครอบครัว สู่รายได้ที่เม็ดงามนั้นเอง