อากาศเย็นส่งผลดีต่อพืชผัก ต่อไวโรคแมลงน้อย

อากาศเย็น ส่งต่อดีต่อพืชผัก ทำให้โตไวโรคแมลงน้อย เกษตรกรเร่งบำรุงเพื่อให้ทันขายช่วงเทศกาลปีใหม่

จากสภาพอากาศที่หนาวเย็นติดต่อกันหลายวัน ได้ส่งผลดีกับพืชผักที่เกษตรกรชาวจังหวัดหนองคาย ปลูกไว้ตามริมฝั่งแม่น้ำโขง ช่วงนี้พืชผักเจริญเติบโตเร็ว เกษตรกรต่างพากันเร่งดูแลและบำรุงพืชผักของตนเอง เพื่อให้ทันขายช่วงเทศกาลปีใหม่ ที่ตลาดมีความต้องการพืชผักมาก ส่งผลให้พืชผักราคาดี พืชผักที่เกษตรกรนิยมปลูกริมฝั่งแม่น้ำโขง ก็จะมีหลากหลายชนิด เช่นกะหล่ำปลี , สลัด , คะน้า , หอม , ผักชี และพริก เป็นต้น ซึ่งจังหวัดหนองคาย มีอำเภอที่อยู่ติดกับแม่น้ำโขงถึง 6 อำเภอ จากทั้งหมด 9 อำเภอ

นายพงษ์ พาพิมพ์ เกษตรกรชาวตำบลกวนวัน อ.เมือง ที่ปลูกผัก บอกว่า ราคาผักปีนี้ราคาทรงตัวมาตลอด เริ่มตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน เป็นต้นมา เช่นกะหล่ำปลี เริ่มตั้งแต่เริ่มเก็บผลผลิตจนถึงขณะนี้ ก็อยู่ที่ถุงละ 100 บาท (10 กก.) ตกกิโลกรัมละ 10 บาท ราคาสูงสุดตั้งแต่ปลูกมาที่เคยขายได้อยู่ที่ถุงละ 250 บาท ตกกิโลกรัมละ 25 บาท

พื้นที่ริมฝั่งแม่น้ำโขงได้เปรียบพื้นที่อื่น ๆ คือไม่ใช่พื้นที่นา ไม่ได้มีการทำนา ทำให้น้ำไม่ท่วม ถ้าสามารถเพาะกล้าได้ในช่วงฤดูฝนที่พื้นที่อื่นไม่ทำกัน ก็จะทำให้ปลูกได้ก่อนพื้นที่อื่น ๆ ส่งผลให้ได้ผลผลิตเก็บขายได้เร็วกว่าพื้นที่อื่น ๆ ซึ่งจะทำให้ได้ราคาดี ช่วงที่ราคาผักดีคือตั้งแต่กลางเดือนพฤศจิกายน – ปีใหม่ แต่หลังปีใหม่ไปแล้วราคาผักจะถูกลง เนื่องจากมีผักที่อื่นออกมาสู่ท้องตลาดมากขึ้น ดังนั้นต้องปลูกให้ได้ผลผลิตออกก่อนพื้นที่อื่น

ส่วนอากาศที่หนาวเย็นนั้น เกษตรกรที่ปลูกผักริมโขงบอกว่า จะส่งผลดีต่อพืชผักที่ปลูกเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะกะหล่ำปลี ผักสลัดกรอบ ผักกวางตุ้ง รวมไปถึงพืชผักชนิดอื่น ๆ ด้วย คือจะทำให้พืชผักโตเร็ว โรคแมลงน้อย ช่วงก่อนหน้านี้ที่อากาศร้อนก็ได้ส่งผลให้กะหล่ำปลีที่ปลูกเปื่อยเน่า จนต้องไถทิ้ง ที่ไม่เนาก็จะเหลืองและมีขนาดเล็ก ไม่ขาวสวยเหมือนช่วงที่อากาศหนาวเย็น แต่ปีนี้อากาศไม่ค่อยเย็น การปลูกผักนั้นต้องการอากาศที่หนาวเย็น