ผลักดัน “ส้มสายน้ำผึ้ง” ขึ้นสู่สินค้า GI คาดได้ขึ้นทะเบียนธันวาคมนี้

เตรียมผลักดัน ส้มสายน้ำผึ้ง เชียงใหม่ยกระดับเป็นสินค้า GI

นายธวัชชัย เดชาเชษฐ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการเกษตรที่ 1 เชียงใหม่ (สศท.1) สำนักงานเศรษฐกิจการเกษตร (สศก.) เปิดเผยว่า จังหวัดเชียงใหม่นับเป็นแหล่งผลิตส้มเขียวหวานอันดับ 1 ของภาคเหนือแหล่งปลูกสำคัญอยู่ที่ อำเภอฝาง อำเภอแม่อาย และอำเภอไชยปราการ พันธุ์ที่เกษตรกรนิยมปลูกมากที่สุดร้อยละ 99 คือ “พันธุ์สายน้ำผึ้ง”

เนื่องจากมีรสชาติหวานอมเปรี้ยว ชานในนิ่มเหมาะกับการรับประทานผลสดและเป็นที่นิยมของผู้บริโภค โดยปีนี้ ผลผลิตออกสู่ตลาดตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน 2566 – กุมภาพันธ์ 2567 และจะออกมากที่สุดในเดือนธันวาคม 2566 ประมาณ 48,437 ตัน

จังหวัดเชียงใหม่ได้มีการขับเคลื่อนผ่านโครงการส่งเสริมการผลิตแบบแปลงใหญ่ ภายใต้นโยบายกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ซึ่งมีเกษตรกรรวมกลุ่มแปลงใหญ่ จำนวน 1 แปลง คือ กลุ่มแปลงใหญ่ส้มสายน้ำผึ้ง ตำบลโป่งน้ำร้อน อำเภอฝาง โดยมีนายคเณช หน่อราช เป็นประธานแปลง นับเป็นแปลงใหญ่ที่เข้มแข็งและประสบความสำเร็จมีการถ่ายทอดเทคโนโลยีและองค์ความรู้ การลดต้นทุนการผลิต

การเพิ่มผลผลิตให้มากขึ้น การพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานผลผลิต การส่งเสริมเรื่องการบริหารจัดการกลุ่ม และเรื่องการตลาด รวมทั้งจังหวัดเชียงใหม่ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ส่งเสริมและสนับสนุนให้แปลงเพาะปลูกส้มสายน้ำผึ้งของเกษตรกรได้รับมาตรฐานการปฏิบัติทางการเกษตรที่ดี (GAP) ซึ่งปัจจุบันมีแปลงที่ได้รับมาตรฐาน GAP จำนวน 80 แปลง รวมเนื้อที่ 3,827 ไร่ รวมถึงยังได้ผลักดันให้ส้มสายน้ำผึ้งเป็นสินค้าที่ได้รับรองมาตรฐานสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) ของจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งขณะนี้อยู่ในขั้นตอนการพิจารณาของกรมทรัพย์สินทางปัญญา คาดว่าจะได้รับ GI ประมาณเดือนธันวาคม 2566