ปูนาทำเงิน! เลี้ยงแปรรูป ส่งขายทั่วประเทส สร้างรายได้ดี

ป.ปูนาฟาร์ม เพาะเลี้ยงปูนาขาย กก.ละ 100 บาท สู่การแปรรูปสร้างรายได้สุดปัง!

วันนี้ทีม จันลั่นทุ่ง ได้มีโอกาสมาบุกถึง ฟาร์มปูนา ที่ อ. ลำลูกกา จ. ปทุมธานี ซึ่งเจ้าของคือ พี่พจน์ โดยพี่พจน์ได้บอกว่า เลี้ยงปู ด้วยความชอบตอนเด็ก รู้สึกชอบ เพราะมันอร่อย โตมามีความรู้สึกว่ามันหาซื้อยาก ไม่ค่อยมีคนขาย เลยมีความคิดว่า อยากลองดู เลี้ยงไปเลี้ยงมา เลยเอามา แปรรูป ด้วย

พักหลังๆ มีคนสนใจเยอะขึ้นจนน่าตกใจ ตนจึงได้ทำการเปิดเป็นศูนย์เรียนรู้ เพื่อให้คนที่สนใจ อยากหาข้อมูลศึกษา ถึงลำดับการเลี้ยง ต้องเตรียมอะไรบ้าง หรือต้นทุนเท่าไหร่ โดยตนจะบอกกับคนที่ดูงานตลอดว่า การเลี้ยงมันไม่ได้ยากอย่างที่คิด หากใครที่สนใจก็ติดต่อตนมาได้เลย

ซึ่งปูที่คนมักนิยมเลี้ยง จะมี 2 สายพันธุ์ คือ กำแพง และพระเทพ แต่ที่ฟาร์มเลี้ยงเป็นพันธุ์กำแพง ด้วยเหตุผลที่ว่า เลี้ยงง่าย เลี้ยงด้วยบ่อปูน แต่เมื่อก่อนเลี้ยงเป็นกระชัง รู้สึกว่า ตัวมันโตช้า เลยเปลี่ยนเป็นบ่อดิน และบ่อปูน ซึ่งให้การเจริญเติบโตได้เร็วกว่า โดยวงจรชีวิตปู เมื่อออกจากท้องแม่ จำนวนหลายร้อยตัว ซึ่งอันนี้ก็จะแล้วแต่แม่พันธุ์ด้วย ว่าจำนวนจะมาน้อยแค่ไหน

ลักษณะของปูตัวเมีย ฝาด้านล่างไม่เหมือนตัวผู้ จะเรียบไปเลย และสีตัวไม่สามารถแยกตัวผู้ ตัวเมียได้ เพราะสีของตัวปู จะบ่งบอกถึงอายุของปู ถ้าสีเข้ม หรือส้ม คือปูที่อายุมากแล้ว ส่วนตัวผู้ จะมีซิกแพคตรงกลาง ก้ามจะโต กว่าตัวเมีย

ทั้งนี้ อายุขัยของปูจะมี 2 ปี ซึ่งปูที่มีอายุตั้งแต่ 5 เดือน – 1 ปี ก็เริ่มเอาไปจำหน่ายแล้ว แต่ถ้าเกิน 1 ปี ก็จะแก่ไป น้ำเชื้อไม่แข็งแรง ก็จะเอาไปแปรรูปแทน

วิธีการเลี้ยง เจ้าของบอกว่า จะเลี้ยงในบ่อขนาด 4×9 เมตร เลี้ยงทั้งหมด ตารางเมตรละ 10 คู่ โดยทำการก่ออิฐขึ้นมา อิฐบล็อก 2 ก้อน ฉาบให้เรียบ เพราะจะได้กันปูหนี ใส่น้ำลงไปในบ่อให้ท่วมหลังปู 30 เซนติเมตร เพราะถ้าน้ำมากกว่านั้น เดี๋ยวปูจะหาอาหารลำบาก และในบ่อจะต้องมีที่หลบให้ปู เช่นพวก กระเบื้องต่าง ๆ ท่อพีวีซี กันการรบกวนกัน หรือกันการทะเลาะของปูนา

ช่วงผสมพันธุ์จะเกิดขึ้นในช่วงหน้าฝน โดยในบ่อจะมีสปริงเกอร์ หลอกว่าเป็นหน้าฝน ซึ่งทำให้เขาหลงฤดู เพื่อให้เขาผสมพันธุ์กันตลอด อีกทั้งยังช่วยจัดการระบบน้ำ และช่วงที่ตัวเมียท้อง หน้าท้องจะมีไข่ทะลักออกมา และลูกของมันจะโตที่ท้อง แล้วรอวันที่แม่ปู เขี่ยลูกออกมา

อาหารที่ให้ปูนากิน ถ้าเป็นบ่อปูน บ่อกระชัง จะเป็นพวกอาหารเม็ด หรือ อาหารปลาดุก หรือถ้าเป็นบ่อดิน จะเป็นพวกผักบุ้ง ผักตบ ซึ่งข้อดีของการเลี้ยงบ่อดิ้น คืออาหารไม่ต้องให้บ่อยเท่าบ่อปูน เพราะปูนาในบ่อ จะกัดกินพวกพืชที่โตในน้ำที่เราเลี้ยงปูนาอยู่นั่นเอง

หากถามว่า การเลี้ยงแบบบ่อดิน และบ่อปูน อะไรง่ายกว่า

บอกก่อนว่า การเลี้ยงแบบบ่อดินง่ายกว่า แต่ผู้เลี้ยงอาจจะเกิดการกังวลเรื่องความสะอาด แต่ถ้าลูกค้าอยากได้แบบที่เลี้ยงแล้วมีความสะอาด แนะนำให้เลี้ยงแบบกระชัง และบ่อปูน ก็จะดีกว่า แต่การขยายพันธุ์จะช้าหน่อย ซึ่งมีข้อดีข้อเสียต่างกันออกไป แล้วแต่ความชอบ

การแปรรูปของปูนา ทางพี่พจน์เจ้าของฟาร์ม บอกอีกว่า อายุของปูนา ตั้งแต่ 3 – 4 เดือน ก็สามารถนำมาแปรรูปได้แล้ว โดยการเอามาทำส้มตำ อีกทั้ง ทางฟาร์มยังแปรรูปออกมาเป็น ข้าวเกรียบปูนา น้ำยาขนมจีน และน้ำพริก เป็นต้น ซึ่งน้ำพริกมีทั้งหมด 4 รสชาติให้ทุกคนได้ลิ้มลอง หากใครที่สนใจ หรืออยากศึกษาข้อมูลการเลี้ยงปูนา สามารถติดต่อได้ที่ เพจ FB : ป.ปูนา ฟาร์ม หรือโทร 089-248 6288 พี่พจน์