ฝนดีผลผลิตก็ดีตาม พุทราที่ปลูกในดอนกลางโขง ลูกโต ไม่มีโรคราคาดี

หนองคาย เกษตรกรเร่งเก็บ พุทราดอนกลางโขง หลังสภาพอากาศดี-ฝนดี ลูกดกลูกโต ไร้โรคไร้แมลง

จากการที่สภาพอากาศที่จังหวัด หนองคาย มีฝนตกต่อเนื่อง ตั้งแต่ย่างเข้าฤดูฝนจนถึงขณะนี้ ประกอบกับคุณภาพอากาศดีต่อเนื่องเช่นกัน ได้ส่งผลดีกับพืชผลการเกษตรที่เกษตรกร โดยเฉพาะพืชผลการเกษตรที่ปลูกริมฝั่งแม่น้ำโขง และตามดอนกลางแม่น้ำโขง ที่ปีนี้ให้ผลผลิตดี และเร็วกว่าทุกปีที่ผ่านมา อีกทั้ง ไม่มีโรคแมลง ประกอบกับปีนี้ราคาพืชผลทางการเกษตรมีราคาดีจากเดิมเป็นเท่าตัว อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ซึ่งอาจจะเกิดจากหลายพื้นที่ประสบกับปัญหาน้ำท่วม ทำให้ช่วงนี้เกษตรกรเร่งเก็บขาย สร้างรายได้ให้กับเกษตรวันละหลายพันบาท

ที่คึกคักเป็นพิเศษคือ บริเวณริมฝั่งโขงบ้านท่ามะเฟือง ต.โพนสา อำเภอท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย เกษตรกร ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ และเกษตรกรจาก ต.เวียงคุก อ.เมือง จ.หนองคาย จำนวนกว่า 400 ครอบครัว ที่เข้าไปปลูกพืชผลทางการเกษตร หลายชนิด ทั้งพุทรา มะเขือ พริก และยาสูบ ที่ดอนต่ำดอนแตง ซึ่งเป็นดอนของไทย พื้นที่ประมาณ 3,000 ไร่กลางแม่น้ำโขง ได้เก็บผลผลิตของพืชผลการเกษตรที่ปลูกไว้ในบนดอน ซึ่งช่วงนี้เป็นช่วงฤดูการเก็บเกี่ยวโดยเฉพาะพุทราพันธุ์เวียดนาม และพันธุ์สามรส ที่กำลังให้ผลผลิตเป็นจำนวนมาก

ซึ่งเกษตรกรจะบรรจุในถุงน้ำหนักถุงละ 10 กก. วันละไม่ต่ำกว่า 4 – 6 ตัน ใส่เรือข้ามแม่น้ำโขงกลับมายังท่าเทียบเรือบ้านท่ามะเฟือง ต.โพนสา อ.ท่าบ่อ จ.หนองคาย ที่มีท่าขึ้นพืชผลทางการเกษตรถึง 3 ท่า ในแต่ละวันจะมีพ่อค้า-แม่ค้าในพื้นและต่างจังหวัดนำรถมารอรับถึงริมท่า ส่งผลให้ท่าเทียบเรือบ้านท่ามะเฟือง คึกคักเป็นพิเศษ สร้างรายได้ให้กับเกษตรกรวันละหลายพันบาท

เกษตรกรบ้านท่ามะเฟือง ที่ไปปลูกพืชที่ดอนต่ำดอนแตง บอกว่า ปีนี้ราคาพุทราดีมาก ที่สำคัญ ปีนี้ไม่มีโรคแมลงทำให้พุทราไม่เน่า ลูกโต ให้ผลผลิตมาแล้วเกือบ 2 เดือน ราคาล่าสุดขณะนี้ อยู่ที่ถุงละ 140 บาท ถุงหนึ่งบรรจุ 10 กก. ถูกกิโลกรัมละ 14 บาท ตั้งแต่มีการปลูกพุทรามายังไม่เคยขายได้ราคาแพงเหมือนปีนี้มาก่อนเลย ปีที่ผ่าน ๆ มาสูงสุดที่ขายได้กิโลกรัมละ 6 – 7 บาทเท่านั้น ส่วนปี 2564 ที่ผ่านมาก็อยู่ที่ราคา 5 – 6 บาท

โดยตลาดที่มารับซื้อก็เป็นพ่อค้า-แม่ค้าในหมู่บ้าน เข้ามาซื้อแล้วนำไปส่งขายต่อที่ตลาดไทยอีสาน จังหวัดอุดรธานี พุทราที่ปลูกมีอยู่ 2 สายพันธุ์ คือสายพันธุ์เวียดนาม และสายพันธุ์สามรส แต่สายพันธุ์เวียดนาม จะปลูกมากกว่า เพราะมีตลาดรับซื้อมากกว่า ส่วนสายพันธุ์สามรส จะมีรสหวานกว่า ราคาแพงกว่า แต่เกษตรกรไม่นิยมปลูก พุทราสายพันธุ์เวียดนามจะนิยมนำไปทำพุทราดอง ซึ่งปีนี้พุทราให้ผลผลิตเร็วกว่าทุกปีเป็นเวลากว่า 2 เดือน ที่สำคัญไม่ค่อยมีโรคและแมลง อีกทั้งยังลูกงามและโตอีกด้วย