จากเกษตรกรสวนส้มที่เจอวิกฤตส้มร่วง ผันตัวมาทำสวนกล้วยส่ง 7- eleven 300 กว่าไร่ รายได้ต่อปีเป็นล้าน แต่กว่าจะถึงวันนี้ไม่ใช่ง่าย ๆ วันนี้จันลั่นทุ่งได้มีโอกาสสัมภาษณ์ พี่นุกุล เจ้าของสวน พี่นุกุลได้ให้สัมภาษณ์ว่า ก่อนที่จะมาทำสวนกล้วย เขาเคยทำสวนส้มมาก่อนแต่สุดท้ายก็ต้องล้มเลิกไปเพราะในช่วงนั้นมันดันเกิด วิกฤตส้มร่วง เงินที่กู้แบงค์มาก็ขาดทุนแบงค์ก็จะยึดที่ พอวันหนึ่งพี่นุกุลก็ได้มี
โอกาสปลูกกล้วยหอมทองตามคนรู้จัก โดยช่วงแรกๆก็ทดลองปลูกก่อนจำนวน 5 ไร่ สรุปผลออกมาดี มีกำไร แถมในช่วงนั้นพี่ นุกุลได้มีโอกาสทำกล้วยส่งประเทศญี่ปุ่น เนื่องด้วยช่วงนั้นประเทศญี่ปุ่นขาดแคลนกล้วยแต่ก็ต้องหยุดลงอีกครั้ง เพราะวิกฤตเชื้อไวรัสโควิด19 แต่ก็ยังมีส่งให้เซเว่นด้วยส่งให้ห้างด้วย รวมไปถึงแผงที่ ขายในตลาด ปัจจุบันตอนนี้พี่นุกุลมีไร่หมุนเวียนอยู่ประมาณ 300ไร่ โดยจะดูแลทีละ 50ไร่ เพราะจะต้องวางแผนปลูกไว้ให้สามารถเก็บเกี่ยวได้ทั้งปี โดยเคล็ดลับของที่สวนจะวางแผนการปลูกให้ผลผลิตสามารถเก็บเกี่ยวได้ตรงกับเทศกาล ส่วนใหญ่ในช่วง ตรุษจีน กับ เชงเม้ง ราคากล้วยในตลาดจะค่อนข้างสูงเพราะมีความต้องการเยอะ
พอหลังเก็บเกี่ยวเเล้ว ก็จะพักหน้าดินเเละเปลี่ยนไปปลูกข้าวโพดทำเป็นรายได้เสริมหากเก็บเกี่ยวข้าวโพดเเล้วพี่นุกุลจะปั่นต้นข้าวโพดให้ผสมกับหน้าดินเพื่อทำปุ๋ยให้เเก่การปลูกกล้วยครั้งต่อไป แต่การที่จะส่งที่นู่นที่นี่ได้มันต้องมีของดี จริงๆแล้วกล้วยหอมทองของสวนพี่นุกุลได้เปรียบในเรื่องของกล้วยหอม GI ถือเป็นข้อบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์เลยว่าสวนที่ตำบลหนองเสือ จังหวัดปทุมธานี เหมาะที่จะปลูกกล้วย เพราะเป็นการปลูกในล่องสวน
ด้วยความสุดยอดของภูมิศาสตร์นี้เขาจึงใช้ประโยชน์จากล่องน้ำเพื่อรดน้ำเเละตักโคลนตมมาเป็นปุ๋ยให้กับกล้วยอีกต่างหาก เห็นเเบบนี้พี่นุกุลยังจัดตั้งกลุ่ม วิสาหกิจชุมชนขึ้นมาอีกด้วยนะ แถมพี่แกยังบอกเคล็ดไม่ลับกับเรามาอีกด้วยนะ ว่าการปลูกกล้วยหอมทองต้องมีการค้ำต้นเพราะลำต้นของกล้วยหอมช่วงที่จะออกผลผลิตน้ำในลำต้นจะเยอะจึงอาจเกิดการลำต้นหักได้
บวกกับเเนะนำการคลุม เครือกล้วยด้วยถุงพลาสติกสีฟ้าเพื่อป้องการผลผลิตที่จะเกิดการเสียหาย นอกจากนี้ที่สวนของพี่นุกุลยังมีการเเยกหน่อพันธ์ุขายให้กับลูกบ้านหรือผู้คนที่สนใจเเถมยังสอนเทคนิคการตัดหน่อเพื่อให้มันเติมโตได้สมบูรณ์มากขึ้นด้วยหากลูกเพจสนใจอยากได้ความรู้เพิ่มเติมติดต่อที่เบอร์ 0901161114
