ชาวนาอุทัยฯ สุดทน! ขายข้าวได้ราคาต่ำ เทียบเท่าบะหมี่กึ่งสำเร็จรูป

เกษตรกร ชาวนา อุทัยธานี ตัดพ้อ ราคาข้าวต่ำ เศรษฐกิจทรุด ไม่คุ้มค่ากับการลงทุน

วันที่ 24 พ.ย.64 ได้รับการเปิดจากนางสุดใจ พระหนทัย ชาว อ.หนองฉาง จ.อุทัยธานี ที่ในปีนี้ ราคาข้าวเปลือก ราคาข้าวเปลือกหอมมะลิ รับซื้อราคาเกวียนละ 7,000 บาท ตากแห้งเกวียนละ 7,500-9,000 บาท และข้าวนาปัง เกวียนละ 5,000 – 6,000 บาท ราคาขึ้นอยู่กับความชื้นของข้าวเปลือก ที่เกี่ยวสด นำไปขายให้กับโรงสีต่าง ปีนี้ ราคาข้าวต่ำ กว่าปีที่แล้วมาก บางรายไม่มีที่ตากต้องขายสดให้พ่อค้าคนกลางรับซื้อ ส่วนใครมีพื้นที่ว่างตากแดดให้แห้งพอขายได้ราคาขึ้นมาบ้าง

การทำนาแต่ละปีลงทุนสูงมาก ปุ๋ยก็แพง ช่วงเก็บเกี่ยวแรงงานไม่ต้องพูดถึง เพราะปัจจุบันใช้รถเกี่ยวแทนแรงงาน ซึ่งราคารถเกี่ยวข้าว รับจ้างเกี่ยวไร่ละ 500 บาท พอเกี่ยวเสร็จ แล้วต้องรีบนำข้าวเปลือกไปขาย แล้วนำเงินมาให้ค่ารถเกี่ยวเลย เพราะเจ้าของรถต้องนำเงินไปจ่ายค่าน้ำมัน ที่แพงลิวอีกเช่นกัน แต่กลับแตกต่างกับ ราคาข้าวเปลือก ในตลาดที่ราคาแพง ทางด้าน นายสมนึก ศรลัมพ์ ผู้จัดการสหกรณ์การเกษตรศุภนิมิตหนองยาย จ.อุทัยธานี บอกว่า ซึ่งปีนี้ ราคาข้าวเปลือก ที่ออกมาใหม่นั้น ปีนี้คิดว่าถูกมาก เพราะเกี่ยวกับโรคโควิด19 ระบาดมาก ซึ่งโรงสีแต่ละพื้นที่ไม่เสี่ยง ที่กล้าจะซื้อกัน ซึ่งสหกรณ์ก็มีเงินทุนน้อย และในปีนี้เกษตรชาวนาแต่ละพื้นที่ ขายข้าวในที่ถูก ถ้าภาครัฐบาลไม่มากระตุ้นแทรกแซงในการซื้อ ซึ่งปัจจุบันนี้ ราคาข้าวเปลือกที่รับซื้อเกวียนหนึ่ง ราคา 6,000 ถึง 6,500 บาท ซึ่งสูงสุดไม่เกิน 7,000 บาท ส่วนข้าวหอมมะลิราคา 8,000 บาท ซึ่งโรงสีไม่กล้าซื้อกัน หยุดกันเกือบหมด เนื่องจาก ส่งออกนอกไม่ได้

ซึ่งตอนนี้อยากให้ภาครัฐบาลเข้ามาช่วยเหลือ เกษตรกร ชาวนา คือให้สหกรณ์ซื้อเก็บ หรือฝากขายไว้ก่อน โดยให้ชาวนานำเงินไปใช้ก่อน หรือให้สหกรณ์รับจำนำไว้ โดยยังไม่ขายขาด ซึ่งปัจจุบันนี้ที่ เกษตรกรชาวนา ที่นำข้าวมาขายในราคาเกวียนละ 5,000-6,000 บาท นั้น ซึ่งตนเองถือว่า เกษตรกรชาวนา นั้นแทบไม่มีกำไร และไม่ได้อะไรเลย ซึ่งถ้าเป็นนาเช่านั้น ขาดทุนหนักแน่นอน แต่ก็ถือว่าเป็นอาชีพของชาวนา ซึ่งอาชีพทำนาเหมือนผีสิง ขาดทุนกำไรก็ต้องทำ แล้งก็ต้องทำ ซึ่งอยากให้ภาครัฐ เข้ามาช่วยอุ้มราคาข้าวให้ชาวนาในช่วงนี้ ในลักษณะโครงการแก้มลิง เพื่อพยุงราคาให้ ชาวนาอยู่ได้