คลายสังสัย ทำไมฟักทอง ต้องมาทุกทีที่มี ฮาโลวีน

ถึงบางอ้อ แจกแหลกแหกสงสัย ทำไมฟักทอง ต้องมาทุกทีที่มี ฮาโลวีน

วนมาอีกปีแล้ว ปีๆหนึ่งช่างผ่านไปไวเหลือเกิน เทศกาล กุ๊กๆกู๋ อย่าง ฮาโลวีน วนมาอีกปีแล้ว

หลายคนยังไม่รู้ว่า ฮาโลวีคืออะไร และที่สำคัญที่แอดอยากรู้ที่สุดคือ ฟักทองทำไมถึงไปเกี่ยวกับเทศกาลนี้ด้วย

วันฮาโลวีน ถือเป็นวัฒนธรรมแบบอเมริกัน แล้วเจ้าฟักทองหน้าผีก็เกิดจากความเชื่อแบบเคลติกของชาวไอริชที่อพยพไปยังอเมริกาในยุคแรกๆ ในความเชื่อแบบดั้งเดิมใช้พืชหัวที่เรียกว่าเทอร์นิพ (Turnip) พืชที่คล้ายๆ หัวไชเท้าแต่ทรงกลมๆ พอมาอยู่อเมริกาแล้วเทอร์นิพมีไม่เยอะ แต่ฟักทองพืชประจำถิ่นมีเยอะ ราคาถูก เลยอะ ใช้ฟักทองกันดีกว่า

เทศกาลฮาโลวีนเดิมมาจากความเชื่อเคลติก ความเชื่อพื้นถิ่นแถบสกอตแลนด์ ในสมัยก่อนพวกความเชื่อทั้งหลายก็มักเกี่ยวกับวิถีชีวิต การเกษตร และวงจรของธรรมชาติ วัน Samhain ที่มาของวันฮาโลวีนเป็นวันที่เฉลิมฉลองวันสุดท้ายของการเก็บเกี่ยวในฤดูร้อนเพื่อก้าวเข้าสู่ฤดูหนาว นึกภาพวันอันสดใสซาบซ่าของฤดูแห่งการผลิบาน ก่อนที่เข้าสู่ความหนาวเหน็บแบบดินแดนทางเหนือของอังกฤษ ไม่แปลกที่คนโบราณจะมองว่าคืนวันนั้นจะเกี่ยวข้องกับโลกแห่งความตาย

Samhain คือวันที่เชื่อกันว่าเป็นวันที่ขอบเขตของโลกมนุษย์และโลกหลังความตายเข้าใกล้กันมากที่สุด ดังนั้นชาวบ้านเลยแต่งตัวเป็นผีเพื่อหลอกพวกผีสางและปีศาจทั้งหลายที่จะออกมาเพ่นพ่านในวันนั้น ว่าเอ้อ พวกเดียวกันเด้อ ในบริเวณบ้านเองก็ต้องป้องกันด้วยการก่อกองไฟ และมีการแกะสลักหัวเทอร์นิพ ควักไส้และใส่เทียนไว้ข้างใน โคมไฟนี้นอกจากจะกันผีแล้ว ยังทำหน้าที่ให้แสงสว่างกับคนที่เดินทางไปมา

เจ้าโคมไฟหน้าผีเรียกว่า jack o’lanterns แปลตรงตัวว่าชายผู้มากับตะเกียง มาจากตำนานพื้นถิ่นในยุโรปที่ใช้อธิบายปรากฏการณ์ ignis fatuus ปรากฏการณ์ประกายไฟปริศนาที่เกิดขึ้นบริเวณบึงหรือพื้นที่ชื้นแฉะ

ความเชื่อทั้งหลายเป็นความเชื่อของทางยุโรป ช่วงกลางปี 1800 เกิดกระแสการอพยพจากยุโรปมาสู่อเมริกาดินแดนใหม่ ชาวไอร์แลนด์และสกอตแลนด์ที่ย้ายถิ่นฐานไปยังอเมริกาก็นำความเชื่อแบบเดิมติดตัวมาด้วย ฟักทองและการแกะสลักฟักทองเพื่อเฉลิมฉลองจึงเป็นส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์อเมริกา

ฟักทองเป็นพืชประจำถิ่นของอเมริกาเหนือ ไม่มีหลักฐานว่าใครเอาฟักทองที่มีมากมายในฟาร์มมาแกะสลักแทนเทอร์นิพเป็นคนแรก แต่มีการพูดถึงการใช้ฟักทองเฉลิมฉลองในนิตยสาร Harper’s Young People ในปี 1866 และหลังจากนั้นการแกะฟักทองก็ค่อยๆ ได้รับความนิยมมากขึ้น จนกระทั่งในปี 1920 ฮาโลวีนเลยกลายเป็นเทศกาลประจำชาติในที่สุดนั่นเอง