ประเด็น หมุด ส.ป.ก.โคราช ผุดอุทยานฯเขาใหญ่ เหมือนจะจบแต่ก็ยังไม่จบ และส่อที่จะบานเป็นไฟลามทุ่งไปเรื่อยๆ
ล่าสุดวันนี้ (2 มี.ค. 67) อีจันได้พูดคุยกับ นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย รมว.เกษตรและสหกรณ์ ในเรื่องประเด็นต่างๆ ที่เกิดขึ้น หลังจากกรมแผนที่ทหารได้พิสูจน์รังวัดพื้นที่ข้อพิพาทเสร็จสิ้น และผลปรากฎว่าเป็นแนวเขต ส.ป.ก. ซึ่งเรื่องนี้ทำให้ นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักอุทยานฯ ไม่พอใจ จึงเอาเรื่องนี้ไปเข้าในที่ประชุมคณะกรรมาธิการการที่ดินทรัพยากรทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เมื่อวันที่ 28 ก.พ. ที่ผ่านมา
โดย นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ กล่าวว่า ผมมองว่าเรื่องนี้จะไปอยู่ในชั้นศาลก็ไม่ได้มีปัญหาอะไร แต่ถ้าให้เรื่องนี้มันจบได้ง่ายขึ้นก็ให้ ผอ.ชัยวัฒน์ นำหลักฐานไปหักล้างกับกรมแผนที่ทหาร ถ้าเชื่อมั่นในกรมแผนที่ทหารแล้วจะเชื่อมั่นอะไร ประเทศไทยมีอะไรที่ดีกว่ากรมแผนที่ทหารไหม ส่วนถ้าจะไปคุยกันในศาลก็ไม่ใช่ปัญหาอะไรทั้งสิ้น
ส่วนประเด็นที่ ส.ป.ก. ออกมาแถลงว่า ส.ป.ก. เป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ตามกฎหมายในพื้นที่ข้อพิพาท บ้านเหวปลากั้ง ต.หมูสี อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา และมองว่ากรมแผนที่ทหารทำตามมาตราฐานการรังวัดตามหลักสากลถูกต้องแล้ว
นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ กล่าวว่า ผมขอเล่าแบบนี้ก่อนว่า เมื่อก่อนที่ตรงนี้ไม่ได้ชื่ออุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ แต่มีชื่อว่า “ป่าเขาใหญ่” ซึ่งต่อมาก็ได้กำหนดเป็นพระราชกฤษฎีกาให้เป็นเขตอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ในปี 2505 โดยจะมีหลักหมุดปักอยู่รอบเขตอุทยานฯ ประมาณ 900 กว่าหมุด ใน 4 จังหวัดคือ นครนายก ปราจีนบุรี นครราชสีมา และสระบุรี เพราะฉะนั้นเวลากรมแผนที่ทหารไปรังวัดก็จะต้องใช้ Field Book ของอุทยานฯเขาใหญ่ รวมถึงดูหลักฐานต่างๆ
ซึ่งหลักฐานก็ชัดว่าเมื่อก่อนพื้นที่เป็นป่าจริง แต่ต่อมาประชาชนเข้าไปรุกล้ำพื้นที่ป่าเยอะ ซึ่งถ้าจับก็เท่ากับเอาประชาชนไปติดคุก ด้วยเหตุผลนี้ปี 2527 กรมพัฒนาที่ดินได้จำแนกออกมาให้ ส.ป.ก. เป็นคนดูแล และออกให้เป็นเอกสารสิทธ์ ส.ป.ก.4-01 ให้ประชาชนได้มีที่ทำกิน โดยมีกำหนดไว้ว่าถ้าที่ดินนั้นเป็น ป่า ภูเขา แหล่งน้ำ ไม่สามารถออกเอกสารสิทธ์ได้ แต่ปัญหามันอยู่ที่ว่า ช่างที่ไปรังวัดหรือข้าราชการที่ดูแล ไปเซ็นออกเอกสารสิทธิ์ได้ยังไง
ส่วนประเด็นที่ ผอ.ชัยวัฒน์ แฉว่า มีผู้ใหญ่โทรเคลียร์เรื่องที่ดิน ส.ป.ก. ที่ผู้ใหญ่คนนั้นบอกว่า จะยกให้อุทยานฯทั้งหมด แต่สุดท้ายปรากฎว่ากลายเป็นที่ ส.ป.ก.
นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ กล่าวว่า ผมอยากให้พี่ชัยวัฒน์เอยชื่อผู้ใหญ่คนนั้นออกมาเลย ว่าผู้ใหญ่คนนั้นคือใคร เบอร์โทรอะไร โทรมาเมื่อไหร่ แฉให้ประชาชนและนักข่าวรู้ไปเลย แต่ปิดแบบนี้ก็ทำให้สังคมคลุมเครือประชาชนก็จะคิดไปต่างๆ นาๆ เพราะฉะนั้นจะพูดอะไรก็เอาให้มันชัดๆ เอาให้มันชัดเจน เพราะประชาชนเขาติดตามอยู่ และผมก็ไม่รู้ว่ามันเป็นเรื่องจริงหรือไม่จริง
ยืนยันว่าไม่ใช่ทางผู้ใหญ่ฝั่ง ก.เกษตรฯ แน่นอน เรารอกรมแผนที่ทหารอย่างเดียว ไม่มีทางที่จะคุยส่วนตัว ก่อนหน้าเราโดนพี่ชัยวัฒน์ด่ามาขนาดนี้ เราจะโทรหาเขาทำไม ผมขอยืนยันอีกครั้ง ท่าน ร.อ.ธรรมนัส หรือ เลขาธิการ ส.ป.ก. ดร.วิณะโรจน์ หรือ ผม ไม่มีใครโทรไปคุยกับ ผอ.ชัยวัฒน์ หรือ ผู้บริหาร ก.ทรัพยากรฯ แน่นอน 100%
นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย รมว.เกษตรและสหกรณ์
ส่วนประเด็นที่ ผอ.ชัยวัฒน์ พร้อมด้วย นายชีวะภาพ ชีวะธรรม ผู้ตรวจราชการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นำหน่วยงานลงสำรวจพื้นที่ใหม่ เมื่อวันที่ 1 มี.ค. ที่ผ่านมานั้น
นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ กล่าวว่า ผมเห็นข่าวแล้ว ตรงนั้นเป็นเขตพื้นที่ ส.ป.ก. เราจัดสรรให้ราษฎรตั้งแต่ปี 2538 แต่ก็ไม่สามารถเข้าไปทำมาหากินได้ เพราะเขาบอกว่าป่าไม้ไม่ให้เข้าไป ซึ่งยังไงก็ต้องไปพิสูจน์กันว่าเป็นเขตของใครกันแน่ จะเป็นเขต ส.ป.ก. ป่าไม้ หรืออุทยานฯ
ส่วนเรื่องที่ผู้ใหญ่บ้านเหวปลากั้ง โดนขู่ว่าจะถูกทำร้ายร่างกาย เพราะเข้าใจว่าผู้ใหญ่บ้านไปบอกเจ้าหน้าที่เรื่องที่ดินตรงนี้นั้น ผมแนะนำให้ผู้ใหญ่บ้านไปแจ้งความดำเนินคดี แล้วก็ขอให้ตำรวจมาคุ้มครอง ส่วนเรื่องผู้มีอิทธิพลฝั่งผมไม่มีหรอก ผมคิดว่าจะเป็นเรื่องภายในของหมู่บ้านกันเองมากกว่า
มาขู่ผมมั่งดิ ลองมาขู่ผม ลองมาขู่พี่ชัยวัฒน์ รับรองโดนคนจริงอย่างผมกับพี่ชัยวัฒน์เอาแน่คือผมกับพี่ชัยวัฒน์ไม่ได้มีปัญหาอะไรกันนะครับ เราเจอกันต่างเคารพกัน เจอหน้ากันไหว้ให้กัน ส่วนเรื่องการทำงาน พวกเราก็ต่างคนต่างทำหน้าที่ แต่เราไม่ก้าวก่ายกัน
นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย รมว.เกษตรและสหกรณ์
สำหรับความคืบหน้าในส่วนของการตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงข้าราชการที่เกี่ยวข้องนั้น นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ กล่าวว่า ทาง คกก. ได้ลงพื้นที่เข้าไปตรวจสอบแล้ว คาดว่าสัปดาห์หน้าจะได้เห็นถึงความชัดเจนในเรื่องของการสอบ อาจจะยกระดับไปเป็นการสอบวินัยร้ายแรง ส่วนในเรื่องของการดำเนินคดีนั้น สัปดาห์หน้ามีข่าวดีแน่นอน
นอกจากนี้ นายธนดล ยังกล่าวอีกว่า ตอนนี้ ร.อ.ธรรมนัสฯ ได้สั่งการให้ตนเป็นประธานคณะตรวจสอบสืบหาว่าการออกเอกสารสิทธิ์ที่มิชอบนั้น มีนายทุนหรือผู้มีอิทธิพลอยู่เบื้องหลังหรือไม่ ซึ่งตอนนี้ตนจะปรึกษากับ ดร.วิณะโรจน์ ทรัพย์ส่งสุข เลขาธิการ ส.ป.ก. ออกคำสั่งส่งให้ ส.ป.ก. ทั้ง 72 จังหวัด ให้เกษตรกรในพื่นที่ที่มีเอกสารสิทธิ์ ส.ป.ก.4-01 มาให้ถ้อยคําว่าปัจจุบันทำอะไรอยู่ ปลูกอะไรอยู่
เมื่อมาให้ถ้อยคำแล้วก็จะมีการลงไปตรวจสอบเองด้วย หากไม่เป็นความจริง โดนดำเนินคดีตามมาตรา 137 ให้ข้อมูลเท็จ แต่ถ้าใครที่บอกถือครองอยู่แล้วพบเป็น รีสอร์ท โรงแรม จะยึดคืนและรื้อถอนทั้งหมด โดยจะเอาที่ดินเหล่านั้นไปให้เกษตรกรที่ไม่มีที่ทำกินจริงๆ ทำมาหากินแทน
ผมขอเวลาทำงาน เพราะมันมีขั้นตอนทางราชการต่างๆ ที่ต้องใช้เวลา มันอาจจะไม่ทันใจ แต่รับรองระยะยาวเราแก้ปัญหาแน่นอน ขอให้มั่นใจในตัวผมนะครับ
นายธนดล สุวัณณะฤทธิ์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย รมว.เกษตรและสหกรณ์