
การเริ่มต้นวันใหม่ด้วยผลไม้คือทางเลือกที่ดีต่อสุขภาพ แต่ความจริงอาจไม่เป็นแบบนั้นเสมอไป..
(25 ก.ค 68) สื่อต่างประเทศ เปิดเผยข้อมูลจากนักโภชนาการสัญชาติอังกฤษ ที่มีการจัดอันดับคุณค่าทางโภชนาการของผลไม้ยอดนิยมรวม 18 ชนิด พร้อมเปิดเผยว่า 3 ผลไม้ที่นิยมรับประทานในมื้อเช้า อาจไม่ใช่ตัวเลือกที่ดีสำหรับการดูแลสุขภาพ

รายงานระบุว่า นิโคลา ลัดแลม-เรน (Nichola Ludlam-Raine) นักโภชนาการชั้นนำของสหราชอาณาจักร เปิดเผยการจัดอันดับผลไม้ 18 ชนิดตามคุณค่าทางโภชนาการ พบว่าหลายชนิดที่คนมักนิยมกินในมื้อเช้า เช่น แตงโม, สับปะรด และกล้วย มีคุณค่าทางโภชนาการไม่เพียงพอ และควรพิจารณาเป็นเพียงของว่างแทนอาหารหลักมื้อเช้า
จากการประเมิน (โดยพิจารณาจากปริมาณวิตามิน แร่ธาตุ ใยอาหาร และน้ำตาลตามธรรมชาติ) พบว่า แตงโมและผลไม้ตระกูลแตง เช่น เมล่อน และแคนตาลูป ได้คะแนนโภชนาการเพียง 1/5 เนื่องจากมีน้ำมากแต่ใยอาหารและสารอาหารรองต่ำ แม้จะมีวิตามิน C และ A อยู่บ้าง
ขณะที่ สับปะรด ได้เพียง 2/5 คะแนน แม้จะอุดมด้วยวิตามิน C และเอนไซม์โบรมีเลนที่ช่วยย่อยอาหาร แต่ก็มีน้ำตาลสูงและความเป็นกรดที่อาจระคายเคืองเหงือก
ส่วน กล้วย ที่ถูกยกเป็นราชามื้อเช้า ได้ 3/5 คะแนน โดยถูกจัดว่ามีน้ำตาลธรรมชาติค่อนข้างสูง แม้จะมีคุณประโยชน์จากโพแทสเซียม วิตามิน B6 และใยอาหารที่ดีต่อระบบหัวใจและให้พลังงานรวดเร็ว นักโภชนาการแนะว่า ผู้ป่วยเบาหวานหรือผู้ที่มีภาวะดื้อต่ออินซูลินควรควบคุมปริมาณให้ไม่เกิน 80 กรัมต่อมื้อ

ผลไม้ที่ได้คะแนนโภชนาการสูงสุด 5/5 ได้แก่ ส้ม กีวี และผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ (เช่น สตรอว์เบอร์รี่ บลูเบอร์รี่ ราสป์เบอร์รี่) ซึ่งอุดมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ วิตามิน C และใยอาหาร ช่วยต้านการอักเสบ เสริมภูมิคุ้มกัน และบำรุงเซลล์
กลุ่มที่ได้ 4/5 คะแนน ได้แก่ แอปเปิ้ล ลูกแพร์ ส้มโอ และมะม่วง ที่มีความสมดุลระหว่างน้ำตาลและสารอาหารที่เป็นประโยชน์

ขณะเดียวกัน แพทย์จากศูนย์สุขภาพ Wellness Drip กล่าวเสริมว่า การได้รับวิตามิน C เป็นประจำจากผลไม้ดังกล่าว สามารถช่วยลดจำนวนวันป่วยในแต่ละปีได้ถึงครึ่งหนึ่ง พร้อมแนะว่า หากร่างกายมักอ่อนเพลียหรือฟื้นตัวช้า อาจเกิดจากการขาดวิตามิน C
แม้ผลไม้จะเป็นแหล่งของคาร์โบไฮเดรต ในรูปแบบของน้ำตาลธรรมชาติ เช่นฟรุกโตส แต่หากมีใยอาหารร่วมด้วยก็จะช่วยชะลอการดูดซึมน้ำตาลเข้าสู่เลือดอย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ไม่ใช่ผลไม้ทุกชนิดจะเหมาะกับการบริโภคในมื้อเช้า
ฉะนั้น ควรเลือกผลไม้ที่มีใยอาหารสูง น้ำตาลต่ำ และหลากหลาย ส่วนผู้ป่วยเบาหวานหรือมีภาวะดื้อต่ออินซูลิน ควรระมัดระวังเป็นพิเศษทั้งชนิดและปริมาณที่บริโภค “อีจัน” เป็นห่วงครับ
ขอบคุณข้อมูล : SOHA