เมื่อช่วงเช้าของวันนี้ (3 ม.ค. 65) นายสมศักดิ์ จังตระกุล ผู้ว่าราชการจังหวัดขอนแก่น เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จ.ขอนแก่น ได้มีมติในการยกระดับมาตรการควบคุมและป้องกันการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่เข้มงวดมากยิ่งขึ้น หลังพบว่ามีจำนวนผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อโควิดรายใหม่ ในพื้นที่ จ.ขอนแก่น เพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะวันที่ 1 ม.ค.เพียงวันเดียว มีผลการตรวจยืนยันจากห้องปฎิบัติการ พบว่ามีผู้ป่วยติดเชื้อโควิด รวม 232 ราย ซึ่งเป็นการติดเชื้อโควิดที่มากเมื่อเทียบกับช่วงกับช่วงเวลาก่อนเทศกาล โดยเฉพาะในสายพันธ์ุ โอมิครอน ที่แพร่ระบาดได้ง่าย จากการรวมกลุ่มหรือการจัดกิจกรรมที่ไม่เหมาะสม และไม่ปฎิบัติตามมาตรการป้องกันโรค ดังนั้น คณะกรรมการควบคุมโรคติดต่อ จ.ขอนแก่น จึงมีคำสั่งปิดโรงเรียนหรือสถานศึกษาในทุกระดับ และทุกสังกัด รวมทั้งศูนย์พัฒนาเด็กเล็กทุกแห่ง และทุกสังกัด ไปจนถึงวันที่ 14 ม.ค. โดยให้จัดการเรียนการสอนในรูปแบบของออนไลน์แทน ขณะที่ สถานศึกษาที่ดูแลเด็กพิเศษหรือมีลักษณะที่เป็นที่พักประจำ ยังคงสามารถจัดการเรียนการสอนได้ แต่ไม่อนุญาตให้นักเรียนออกจากสถานศึกษา และห้ามผู้ปกครองหรือบุคคลภายนอกเข้าเยี่ยมเด็ดขาด
ขณะเดียวกันได้ขอความร่วมมือไปยังภาคเอกชน พิจารณาตามมาตรการ Work From Home เพื่อลดความเสี่ยงการติดเชื้อโควิด ซึ่งอาจจะเป็นไปในรูปแบบของการสลับวันทำงาน การทำงานแบบออนไลน์ เพื่อลดการสัมผัสหรือการรวมกลุ่ม ไปจนถึงวันที่ 14 ม.ค. รวมไปถึงการงดจัดกิจกรรมงานวันเด็กแห่งชาติประจำปี 2565 อย่างเด็ดขาด นอกจากนี้ทางจังหวัดยังคงมีการกำหนดให้ส่วนงานราชการทุกแห่ง ทำการตรวจหาเชื้อแบบ ATK ให้กับพนักงานในกลุ่มที่มีความเสี่ยงสูง เมื่อพนักงานเริ่มเข้าปฎิบัติงาน เพื่อความปลอดภัยในภาพรวมทั้งหมด โดยให้มาตรการดังกล่าวมีผลทันที หากผู้ใดฝ่าฝืนหรือไม่ปฎิบัติตาม จะมีโทษตามความผิด มาตรา 9, 10 และ 18 แห่ง พระราชกำหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ.2548 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมีความผิดตามมาตรา 35 และ 52 ตาม พรบ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี ปรับไม่เกิน 100,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ ทั้งยังคงมีความผิด ในข้อ 4 ตามความผิดมาตรา 34 และ 51 แห่ง พรบ.โรคติดต่อ พ.ศ.2558 ต้องระวางโทษปรับไม่เกิน 20,000 บาทด้วย