นายสุภัทร จำปาทอง ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) เปิดเผยว่า ตนได้หารือร่วมกับกรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข เตรียมปรับความก้าวหน้าแผนการฉีดวัคซีนนักเรียนให้ตรงกัน โดยเฉพาะข้อมูลความต้องการฉีดวัคซีนของเด็กที่เพิ่มขึ้นจำนวนมาก จากข้อมูลวันที่ 27 ก.ย. มีผู้แสดงความประสงค์ต้องการให้ลูกฉีดวัคซีน 3,620,000 ราย ข้อมูลล่าสุดวันที่ 15 พ.ย.ผู้ปกครองแสดงความประสงค์ต้องการให้ลูกฉีดวัคซีนแล้ว 3,989,595 ราย, ฉีดวัคซีนเข็ม 1 แล้ว 3,453,881 ราย คิดเป็น 86.57%, เข็ม 2 จำนวน 851,017 ราย คิดเป็น 21.33% ถือว่ามีความต้องการฉีดวัคซีนเพิ่มขึ้นจำนวนมากและรวดเร็ว คาดว่าสิ้นเดือนพ.ย.จะสามารถฉีดวัคซีนเข็ม 1 ได้เกินกว่า 4 ล้านคน หลังจากนี้จะเร่งดำเนินการฉีดเข็ม 2 ให้เร็วที่สุด และขอให้ศึกษาธิการจังหวัด สำรวจตัวเลขเด็กที่ขอรับวัคซีนเพิ่มเติม เพื่อดำเนินการจัดสรรให้เพียงพอต่อความต้องการ
นายสุภัทร กล่าวเพิ่มเติมว่า ด้านการฉีดวัคซีนครูในขณะนี้ มีครูได้รับวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วประมาณ 600,000 คน เหลืออีกประมาณ 230,000 ราย รอฉีดเข็ม 2 และยังไม่ได้รับวัคซีนประมาณ 60,000 ราย ซึ่งต้องเร่งดำเนินการ โดยสั่งการผ่านศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 กระทรวงศึกษาธิการ ให้ทุกหน่วยงานสำรวจจำนวนนักเรียนและครู ที่ได้รับซิโนแวค 2 เข็ม ว่าได้รับบูสเตอร์โดสเข็มที่ 3 ไปแล้วจำนวนเท่าไร ยืนยันว่า วัคซีนมีเพียงพอสำหรับฉีดนักเรียนอย่างแน่นอน เพียงแต่อาจมีความล่าช้า3-4 วัน เพราะวัคซีนออกจากประเทศต้นทางช้ากว่ากำหนด กระทบกับบางจังหวัดที่อาจต้องเลื่อนการฉีดวัคซีนนักเรียนออกไปเล็กน้อย
สำหรับแผนการเปิดโรงเรียนนั้น ขณะนี้มีโรงเรียนที่เปิดเรียนออนไซต์ 13,007 แห่ง คิดเป็นเรียนออนแอร์ 3,536 แห่ง ออนดีมานหรือเรียนผ่านแอปพลิเคชัน 8,512 แห่ง ออนไลน์ 10,939 แห่ง ออนแฮนด์ 17,667 แห่ง โดยโรงเรียนที่เปิดเรียนออนไซต์ ต้องดำเนินการตามาตรการของ ศธ. ซึ่งจัดทำร่วมกับ สธ. ตามแนวทางของ ศบค.ชุดใหญ่ อย่างไรก็ตาม จากการเปิดเรียนออนไซต์ กว่า 2 สัปดาห์ที่ผ่านมายังไม่พบคลัสเตอร์โรงเรียน เด็กที่ติดโควิด กว่า 99% ติดมาจากผู้ปกครองหรือผู้ใหญ่ใกล้ชิด และจากข้อมูลล่าสุดพบว่า เด็กช่วงอายุ 0-19 ปี ติดโควิด-19 แล้ว กว่า 1.6 หมื่นราย แต่ไม่มีรายงานว่า เป็นการติดเชื้อจากโรงเรียน
คลิปอีจันแนะนำ
ปริศนาฆาตกรรม ตอน : ด.ช. เหยื่อเพื่อนเเม่