สธ.ย้ำ ด่านหน้าที่ขอไฟเซอร์ ได้ฉีดเเน่ กำลังทยอยจัดส่ง

ได้ฉีดตามที่ขอ ไฟเซอร์ไม่ได้หาย! สธ.ย้ำ ด่านหน้าที่ขอไฟเซอร์ ได้ฉีดเเน่ กำลังทยอยจัดส่ง ชี้ไม่ได้สูญหาย ตรวจสอบได้

หลังจากที่มีทีมด่านหน้า ออกมาพ้อว่าได้วัคซีนไฟเซอร์ไม่ครบบ้าง ต้องจับฉลากบ้าง ทำให้เกิดกระเเสวิพากษ์วิจารณ์ในสังคมว่า เเล้วไฟเซอร์ ที่จัดมาให้ด่านหน้านั้น หายไปไหน?

ล่าสุดวานนี้ 10 ส.ค.2564 นพ.เฉวตสรร นามวาท ผอ.กองควบคุมโรคและภัยสุขภาพในภาวะฉุกเฉิน กรมควบคุมโรค แถลงถึงการบริหารจัดการวัคซีน “ไฟเซอร์” และการฉีดวัคซีนโควิด ผ่านระบบออนไลน์ โดยระบุว่า การบริหารจัดการวัคซีนไฟเซอร์นั้น สามารถจัดส่งวัคซีนไปยัง รพ.เพื่อฉีดให้บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าได้เร็วกว่าที่กำหนด เดิมจะส่งวันที่ 5 ส.ค. ก็ส่งล็อตแรกได้ตั้งแต่วันที่ 3 ส.ค. หลายพื้นที่เริ่มฉีดตั้งแต่วันที่ 4 ส.ค.

นพ.เฉวตสรร ยืนยันว่า บุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าที่ประสงค์จะรับวัคซีนไฟเซอร์ จะได้รับวัคซีนทุกรายตามเกณฑ์ และอย่ามองว่าเกณฑ์เป็นอุปสรรคทำให้เข้าไม่ถึง เพราะในหลักวิชาการต้องมีข้อพิจารณาว่า มีกรณีใดบ้างที่ทางวิชาการเห็นว่ามีความเหมาะสมในการฉีด ซึ่งข้อมูลเหล่านี้จะมาประกอบกับการสำรวจความต้องการเพื่อจัดสรรวัคซีนลงไป

ประกอบกับหลักเกณฑ์การจัดสรรวัคซีนไฟเซอร์ เราดูจากฐานข้อมูลการฉีดวัคซีนในบุคลากรทางการแพทย์มีจำนวนเท่าไร และให้แต่ละจังหวัดสำรวจความประสงค์ที่รับวัคซีนไฟเซอร์ของบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าว่ามีจำนวนเท่าไร นำมาประกอบกัน ถ้าแจ้งมาต่ำกว่า 50% ของฐานข้อมูลการฉีดวัคซีน เราจะจัดสรรให้เต็ม 50% เนื่องจากอาจมีผู้ต้องการรับวัคซีนเพิ่มเติมและเข้าเกณฑ์ฉีดได้ ถ้าจำนวนสำรวจอยู่ใน 50-75% ของฐานข้อมูล จะส่งให้ตรงตามเปอร์เซ็นต์ที่ขอมา แต่หากจำนวนเกิน 75% ของฐานข้อมูล จะส่งให้เบื้องต้น 75% ก่อน ซึ่งจังหวัดที่ออกมาบอกว่าขาด เป็นกรณีที่มีการส่งรายชื่อเข้ามามากกว่า 75% เมื่อเทียบกับฐานข้อมูล

นพ.เฉวตสรร บอกอีกว่า จะส่งวัคซีนไปเพิ่มเติม หากจุดใดที่ยังไม่ได้รับ บางส่วนที่ตกหล่น หรือมีความต้องการเพิ่มเติม ให้แจ้งหน่วยงานเพื่อรวบรวมเข้ามายังกระทรวงสาธารณสุข โดย รพ.ในจังหวัดต่างๆ ให้ติดต่อสำนักงานสาธารณสุขจังหวัด (สสจ.) รพ.ใน กทม.ให้ติดต่อสำนักอนามัย กทม. ซึ่งจะส่งข้อมูลมายัง สธ.ต่อไป ส่วนกรณีเป็นคลินิกเอกชนใน กทม.ให้แจ้งกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จะทำให้การจัดส่งรอบถัดไปตรงวัตถุประสงค์มากขึ้น

“อย่าเพิ่งด่วนสรุปแล้วเสียกำลังใจ ยืนยันว่าบุคลากรทางการแพทย์และสาธารณสุขด่านหน้าที่ประสงค์จะได้ไฟเซอร์ ก็จะได้รับตามเกณฑ์ทุกราย และจากนี้จะจัดหาซื้อเพิ่มเติมอีก ไม่มีการสูญหายไปไหน มีความโปร่งใสตรวจสอบได้”

นพ.เฉวตสรร กล่าวถึงกรณี รพ.ขอนแก่น และ รพ.สนามธรรมศาสตร์ ที่จัดส่งรอบแรกไปไม่เพียงพอตามจำนวน ก็ได้จัดส่งไปได้ครบถ้วนแล้ว การจัดส่งมีหลักเกณฑ์ตามที่ประชุมร่วมกัน ซึ่งเราวางแผนตั้งแต่แรกว่าต้องส่งเป็นรอบๆ ไม่ใช่ส่งไปในครั้งเดียว เพราะถ้าส่งไปครั้งเดียวก็อาจเป็นจำนวนปริมาณสูง ซึ่งอาจมีปัญหาเรื่องการจัดเก็บและการเอามาผสม เพราะวัคซีนนี้มีความยากกว่าวัคซีนตัวอื่น

โดยเมื่อวานนี้ส่งวัคซีนไฟเซอร์ไปยัง รพ.ในพื้นที่ 13 จังหวัดสีแดงเข้มหรือพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด ได้แก่ กทม. ฉะเชิงเทรา ชลบุรี นครปฐม นนทบุรี นราธิวาส ปทุมธานี ปัตตานี พระนครศรีอยุธยา ยะลา สงขลา สมุทรปราการ และสมุทรสาคร เพื่อฉีดเป็นเข็มแรกในผู้สูงอายุ ผู้ป่วย 7 โรคเรื้อรัง และหญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป เมื่อฉีดแล้วจะนัดหมายอีก 3 สัปดาห์เพื่อฉีดเข็มสอง

ส่วนการฉีดวัคซีนไฟเซอร์เราผสมน้ำเกลือ 1.8 ซีซีเข้าขวดไปผสม เป็นไปตามสูตรที่บริษัทวัคซีนกำหนดมา ทำเหมือนกันทุกประเทศ ไม่ได้ผสมน้ำแน่นอน เมื่อผสมน้ำเกลือแล้วจะกลับขวดไปมาช้าๆ 10 รอบ ไม่ใช่เขย่าจนเกิดฟองอากาศ โดย สธ.ทำวิดีโอคลิปและอบรมทุกจุดหน่วยฉีดแล้ว

“อุณหภูมิเก็บรักษาวัคซีนไฟเซอร์สำคัญมาก เพราะปกติการขนส่งและจัดเก็บจะอยู่ในอุณหภูมิต่ำมากๆ คือ -70 องศาเซลเซียส แต่หากอุณหภูมิสูงขึ้นอายุวัคซีนจะสั้นลง ดังนั้น เมื่อไรที่เอาออกมาจากตู้เก็บมาฉีด จึงต้องฉีดให้หมดใน 6 ชั่วโมง จึงสำคัญมากว่า ต้องบริหารคนมาฉีดกี่คนเพื่อให้ฉีดได้หมด ไม่อย่างนั้นจะเสียวัคซีนต้องทิ้ง เนื่องจาก 1 ขวดฉีดได้ 6 คน แต่หากมา 5 คน แล้ววันนั้นไม่มีคนมาฉีดอีกก็เสียไป 1 โดส การฉีดต้องจบที่วันนั้น เอากลับไปแช่ตู้เย็นอีกไม่ได้ หากไม่มีการฉีดอีกก็ต้องทิ้ง” นพ.เฉวตสรร กล่าว

ก่อนจะย้ำว่า ยอดการวัคซีนโควิด 19 ตั้งแต่วันที่ 28 ก.พ. – 9 ส.ค. ฉีดแล้ว 21,171,110 โดส แบ่งเป็นเข็มแรก 16,336,743 คน เข็มสอง 4,566,345 คน และเข็มสาม 268,022 คน โดยเมื่อวันที่ 9 ส.ค.ฉีดได้สูงมากประมาณ 5 แสนโดส ส่วนที่บางวันมีการฉีดมากฉีดน้อย มีปัจจัยเกี่ยวข้องหลายส่วน เนื่องจากเราต้องมีวัคซีนเพื่อฉีดเข็มสองไม่ให้ขาดตอน ซึ่งหากฉีดเข็มหนึ่งเต็มกำลัง เมื่อคนฉีดเข็มหนึ่งถึงรอบเวลามาฉีดเข็มสอง อาจจะไม่มีวัคซีนฉีดก็จะเกิดผลเสียได้ เราก็พยายามบริหารจัดการไม่ให้ขาดตอน

สรุปภาพรวมฉีดวัคซีนแต่ละยี่ห้อตามจำนวน ดังนี้

ซิโนแวค 10,269,135 โดส

แอสตร้าเซนเนก้า 9,230,417 โดส,

ซิโนฟาร์ม 1,541,724 โดส

ไฟเซอร์ 129,834 โดส

เฉพาะในวันที่ 9 ส.ค. มีการฉีดไฟเซอร์ ดังนี้

เข็มแรก 33,219 ราย

ฉีดเข็มสอง 13,622 ราย

ฉีดกระตุ้นเข็มสาม 82,993 ราย

เอาเป็นว่าด่านหน้าที่กำลังรออย่างมีความหวัง รออีกนิดนะคะ ไฟเซอร์กำลังทยอยส่งค่ะ