3 ปีแล้วที่ทั่วโลกรู้จักกับเชื้อไวรัสโควิด 19 และวันนี้หลายประเทศประกาศให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่น และต้องอยู่ร่วมกับโควิดให้ได้
เช่นเดียวกับประเทศไทยที่ประกาศให้โควิดเป็นโรคประจำถิ่น และพร้อมเปิดประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยว
วันนี้ (6 ม.ค.66) รศ.นพ.ธีระ วรธนารัตน์ คณะแพทยศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย โพสต์เฟซบุ๊ก เตือนการเปิดประเทศเพื่อต้อนรับนักท่องเที่ยวว่า…
สถานการณ์ปัจจุบันนั้น ไม่ว่าที่ใดในโลก ล้วนมีความไม่แน่นอนอยู่มาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งธรรมชาติการระบาดที่ยังไม่ได้สงบ ไวรัสกลายพันธุ์หลากหลาย และไม่ได้กลายพันธุ์จนด้อยลงเรื่อยๆ อย่างที่มีการออกข่าวลวงกันให้หลงเชื่อ ดังจะเห็นได้จากสายพันธุ์ย่อยใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นมาในช่วงหลัง อาทิ BQ.1.x, CH.1.1 หรือแม้แต่ตัวที่ทั่วโลกกังวลอยู่ตอนนี้คือ XBB.1.5
ยิ่งประเทศใหญ่อย่างจีน เปิดการเดินทาง โดยยังมีการระบาดอยู่มาก ควบคู่ไปกับหลายประเทศที่เป็นแหล่งท่องเที่ยว อย่างญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน อเมริกา และอื่นๆ ที่มีการระบาดมากเช่นกัน แปรผันตรงกับปริมาณกิจกรรม และจำนวนคน
ดังนั้น แผนการดำเนินงานของแต่ละกิจการจึงควรตั้งเป้าระยะสั้นและไม่เสี่ยงเกินไป และควรมีแผนสำรองยามที่เกิดปัญหาไว้ด้วยเสมอ บวกลบคูณหาร ประเมินสถานการณ์ให้ถ้วนถี่ จะได้ประคองตัวให้ผ่านพ้นไปได้ตลอดรอดฝั่ง
นอกจากนี้ นพ.ธีระ ยังระบุอีกว่า หากประเมินตามธรรมชาติของการระบาดทั่วโลกที่เกิดสายพันธุ์ย่อยใหม่ๆ ขึ้นมา ทั้ง BQ.1.x, CH.1.1, XBB.x รวมถึงที่น่าเป็นห่วงคือ XBB.1.5 นั้น ผนวกกับการเปิดเสรีการเดินทางท่องเที่ยวจากประเทศที่ระบาดหนัก ณ ภาวะเช่นนี้
ปัญหาไม่ได้อยู่ที่ว่าระลอกถัดไปจะมาหรือไม่? ตอบได้ว่ามาแน่นอน เพราะหน้าต่างเปิดทุกบาน
แต่ปัญหาคือ เมื่อใด? และจะเกิดผลกระทบหรือความสูญเสียมากน้อยเพียงใด? ต่างหาก
สำหรับเมื่อวานทั่วโลกติดเพิ่ม 403,401 คน ตายเพิ่ม 990 คน รวมแล้วติดไป 666,941,607 คน เสียชีวิตรวม 6,705,053 คน
โดย 5 อันดับแรกที่ติดเชื้อสูงสุดคือ ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ไต้หวัน ฮ่องกง และสหรัฐอเมริกา
ดังนั้นการดูแลตัวเองอย่างเคร่งครัด สวมแมสก์ทุกครั้งที่ออกนอกบ้าน และหลีกเลี่ยงอยู่ในที่แออัด ยังเป็นเกราะป้องกันโควิดที่ดีเยี่ยม
คลิปอีจันแนะนำ
ปั๊ดโถ่! หมดเป็นล้าน ได้ปริญญาใบเดียว