ด็อกเตอร์ ทีโดรส อัดฮาโนม เกอเบรออีเยอซุส ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก WHO กล่าวว่า ทั่วโลกมีความจำเป็นที่จะต้องนำเครื่องมือทางวิทยาศาสตร์ ที่มีประสิทธิภาพ มาแบ่งปันอย่างยุติธรรมและรวดเร็วกับประเทศอื่นๆ เพราะความไม่เท่าเทียมกันของวัคซีนและความไม่เท่าเทียมกันทางสุขภาพ ถือเป็นความล้มเหลวครั้งใหญ่ที่สุดในปีที่ผ่านมา หลายๆประเทศไม่มีอุปกรณ์ป้องกัน, อุปกรณ์ตรวจเชื้อ, และวัคซีน อย่างเพียงพอสำหรับการระบาดของเชื้อ ซึ่งมองว่า ความไม่เท่าเทียมกันนี้ เป็นภัยต่อผู้คน และบ่อนทำลายการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลก ทั้งนี้แม้ว่า ไวรัสโควิดสายพันธุ์ โอมิครอน ดูเหมือนจะมีอาการรุนแรงน้อยกว่า เมื่อเทียบกับ สายพันธุ์เดลต้า แต่ไม่ได้หมายความว่า ควรจัดให้ โอมิครอน อยู่ในประเภทเชื้อที่ “ไม่รุนแรง” เพราะ โอมิครอน ยังสามารถทำให้ผู้คนต้องเข้ารับการรักษาตัวในโรงพยาบาล และมีผู้คนจำนวนมากเสียชีวิต ซึ่งในความเป็นจริงนั้น โอมิครอน เปรียบเหมือนคลื่นสึนามิขนาดใหญ่ และรวดเร็วมาก ที่กระทบต่อระบบสุขภาพทั่วโลก โรงพยาบาลต่างๆ กำลังแออัดและมีบุคลากรไม่เพียงพอ ส่งผลให้มีผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 และรวมถึงโรคและการบาดเจ็บอื่น ๆ ที่ผู้ป่วยไม่สามารถรับการรักษาได้ทันท่วงที
อย่างไรก็ตามแม้ว่า วัคซีนรุ่นแรก ไม่อาจหยุดการติดเชื้อและการแพร่เชื้อได้ทั้งหมด แต่ยังคงมีประสิทธิภาพสูง ในการลดการเข้ารับรักษาตัวในโรงพยาบาล และการเสียชีวิตจากไวรัส เช่นเดียวกับการฉีดวัคซีน มาตรการทางสังคมด้านสาธารณสุข รวมถึงการสวมหน้ากากอนามัย การเว้นระยะห่าง หลีกเลี่ยงฝูงชน เป็นสิ่งสำคัญในการจำกัดการแพร่เชื้อ ที่ผ่านมามีบางประเทศ ได้จัดทำพิมพ์เขียวของวัคซีนคุณภาพสูง และเครื่องมือด้านสุขภาพอื่น ๆ ที่สามารถผลิตได้เป็นจำนวนมากอย่างรวดเร็ว และสามารถแจกจ่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ขณะที่ WHO จะยังคงลงทุนในศูนย์กลางการผลิตวัคซีนต่อไป และทำงานร่วมกับผู้ผลิตทุกรายที่ยินดีแบ่งปันความรู้ เทคโนโลยี และใบอนุญาต ตนขอเรียกร้องให้พลเมืองของโลก รวมทั้งภาคประชาสังคม นักวิทยาศาสตร์ และทุกภาคส่วน เรียกร้องให้รัฐบาลและบริษัทเภสัชกรรมแบ่งปันเครื่องมือด้านสุขภาพทั่วโลก และยุติการตายและการทำลายล้างของโรคระบาดนี้ เพื่อสร้างความเท่าเทียมในเรื่องของวัคซีน, การรักษา, และความเท่าเทียมกันด้านสุขภาพ
คลิปอีจันแนะนำ
แม่พลิกลิ้น! สารภาพตีสายฟ้า ดับเพราะแค้นผัวเก่า