เตือนภัย! มุกใหม่มิจฉาชีพ ชวนคุย-อัดเสียง แปลงด้วย AI ไว้หลอกคนอื่นต่อ

นักถอดรหัส AI เตือน! มิจฉาชีพมามุกใหม่มิจฉาชีพ ชวนคุยเพื่อหลอกอัดเสียง แล้วแปลงเสียงด้วย AI ไว้หลอกคนอื่นต่อ

ช่วงนี้มิจฉาชีพระบาดหนักมาก งัดมุกใหม่มาหลอกเราได้ทุกวัน ซึ่งจะเห็นได้ว่าหลายคนเริ่มรู้ทันว่าเป็นมิจฉาชีพ จึงไม่ยอมคลิกลิงก์ หรือทำตามที่มิจฉาชีพบอก แถมบางคนยังพูดเล่น กวนมิจฉาชีพกลับด้วย แต่รู้มั้ยคะว่าการที่เราพูดเล่นกับมิจฉาชีพก็เสี่ยงเหมือนกัน เพราะเขาสารมารถนำเสียงเราไปใช้หลอกคนอื่นได้ 

วันนี้ (18 ธ.ค.66) ที่ปรึกษาด้าน AI สำหรับธุรกิจและองค์กร หรือนักถอดรหัส AI ได้ออกมาโพสต์ เตือนภัย กลโกงแบบใหม่ของมิจฉาชีพ ผ่านเฟซบุ๊ก Worawisut Pinyoyang ระบุว่า 

ช่วงนี้เห็นมีหลายคนโพสต์สะใจเวลามีแก๊ง Call Center โทรมาหา แล้วได้ชวนคุย ทำคอนเทนต์ TikTok แกล้งคนโทรมาด้วยความสะใจ เราคิดว่าตัวเองฉลาด รู้เท่าทัน แต่หารู้ไม่ว่าเสียงของเราถูกอัดไว้แล้ว ระวังกลายเป็นเหยื่อ โดนหลอกซ้อนหลอก 

โดยมิจฉาชีพสารมารถบันทึกเสียงเราไปใช้ประโยชน์ได้ ดังนี้  

1. เสียงที่โดนอัด ถ้าไม่ชัด จะถูกเอาไปใช้ AI ที่คลีนเสียง มันจะ amplify เสียงเราจนชัดเลย ตัดเสียงรบกวน เสียงหมาแมว รถวิ่งผ่าน เหลือแต่เสียงเรา มีเครื่องมือ เช่น Cleanvoice.ai ที่แค่โยนเสียงที่อัดไว้ แล้วมันจะคลีนเสียงให้ ออกมาใสแจ๋ว โดยไม่ต้องไปอัดในสตูดิโอเหมือนแต่ก่อน  

2. ระวังให้ดี มิจฉาชีพ มีหลายเทคนิคในการหลอกเอาเสียงเรา เช่น 

– โทรมาไม่พูดอะไร ให้เราฮัลโหลๆ อยู่คนเดียว โทรมาหลายรอบ คนละเบอร์ ซักพักก็เก็บเสียงเราได้พอสมควร 

– โทรมาปลอมตัวเป็นคนส่งของ แจ้งส่งของนู่นนี่นั่น ชวนคุย ถามทาง  

– โทรมาปลอมเป็นธนาคาร คุณติดหนี้บัตร ชำระก่อนวันที่ … 

– โทรมาชวนทำสินเชื่อ  

– โทรมาปลอมตัวเป็นพนักงาน Call Center ค่ายมือถือ แจ้งให้ชำระเงิน 

– โทรมาจากร้านนู่นนี่ บอกว่าสินค้าที่จองไว้ ได้แล้ว  

ซึ่งถ้าโทรมาประมาณ 5 คน ด้วยเบอร์ปลอมต่างกัน ก็จะได้เสียงเรารวมกันประมาณ 3-5 นาที เอาไป process, clean & amplify ให้ชัดๆ ได้ 

3. เอาเสียงที่คลีนได้ ไปใช้ Voice Cloning ต่อ เช่น Resemble.ai ใช้ความคลิปเสียงประมาณ 3 นาที มีบริการทำแบบนี้มากมาย ที่เราไม่รู้ว่ามี ปกติใช้เวลาหลักวันในการโคลนเสียงที่ได้ 

4. พอได้เสียงโคลน สามารถเขียนโปรแกรมให้เสียงนี้พูดอะไรก็ได้ เรียกว่า Real-time API แบบ Low latency (Low Latency Streaming API) สามารถทำ Realtime Speech to Speech ได้ คือโทรหาเหยื่อด้วยเสียงเราเลย พูดจาโต้ตอบได้ด้วยเสียงเรา 

5. สามารถ deploy เสียงโคลนให้เป็นแบบ offline ไว้ลงในโทรศัพท์มิจฉาชีพ เรียกว่า On-Prem with Offline 

6. สามารถทำสิ่งนี้แบบ at scale คือ ทีละเยอะๆ สเกลไปได้เท่าที่ต้องการ โดยการใช้ เทคโนโลยี Robocalling ด้วยเทคนิคที่เรียกว่า Caller ID Spoofing สามารถปลอมเบอร์ที่โทรเข้า เป็นเบอร์คนรู้จักได้ ซึ่งทุกวันนี้สามารถปลอมแปลงได้ทั้งเบอร์โทร และเสียงเป็นผู้ชาย ผู้หญิง โดยจะคล้ายๆ กับบริการ เช่น SpoofCard, SpoofTel ที่ออกมาแบบเจตนาดี ปกป้องความเป็นส่วนตัวของผู้ใช้

ทั้งนี้ สิ่งที่เราควรทำ คือ 

1. ไม่รับสายเบอร์แปลก เพราะเราไม่รู้เลยว่าปลายสายเป็นใคร ต้องการอะไร 

2. ลง WhosCall, TruCaller ไว้ตรวจสอบเบื้องต้น ถ้าเลือกได้ บน iPhone จะมีตัวเลือก “Silence Unknown Callers”  

3. การเปิดเผยเบอร์โทรส่วนตัว ถือเป็นความเสี่ยง ทำให้ข้อมูลเบอร์เราเข้าไปอยู่ในฐานข้อมูลพี่มิจได้ วิธีการป้องกันเบื้องต้นคือ การปิด Caller ID ก่อนโทรหากลับหาเบอร์แปลก 

Android กดตามนี้ 

Phone > Menu > Settings > Calls > Additional Settings > Caller ID > Hide number 

iPhone กดตามนี้ 

Settings > Phone > Show My Caller ID และ turn off Show My Caller ID  

ซึ่งเทคนิคที่มิจฉาชีพใช้หลอกลวงคนมีอีกเยอะแยะมากมาย เราต้องรู้เท่าทัน อย่าตกเป็นเหยื่อง่ายๆ นะคะ ถ้ารู้ว่าเบอร์ไหนเป็นของมิจฉาชีพ บล็อกทิ้งเลย ไม่ต้องไปคุยด้วย ถ้าใครเหงาก็แวะมาอ่านข่าว ‘อีจัน’ ได้จ้า 

ข้อมูลจาก: https://www.spoofcard.com/features , เฟซบุ๊ก Worawisut Pinyoyang

คลิปอีจันแนะนำ
เด็กคนนี้คือใคร? ดราม่าสนั่น อ.น้องไนซ์