สุดอาภัพ น้องกันยา ลูกช้างป่า หลงโขลง ป่วย ขาลีบ ขาดสารอาหาร

น้องกันยา ช้างป่าสุดอาภัพ อายุเพียง 3 สัปดาห์ แต่กลับเจอมรสุมชีวิต ทั้งหลงจากโขลง ขาดสารอาหาร ตัวเล็ก ขาลีบ น้ำหนักแค่ 69 กก.

กันยา ช้างป่าสุดแสนจะน่าสงสาร อายุเพียง 3 สัปดาห์ แต่ชีวิตอาภัพ ต้องหลงจากโขลง กำพร้าพ่อแม่ ซ้ำยังป่วย ขาดสารอาหาร ขาลีบ น้ำหนักแค่ 60 กก. ต่างจากช้างทั่วๆไป เดินไม่คล่อง เพราะขาไม่ปกติ

เจ้าช้างน้อยกันยา ยังมีใจพร้อมสู้อยู่ และมีพี่ๆหน่วยพิทักษ์พันธุ์สัตว์ป่าภูวัว คอยจัดเวรกันดูแลใกล้ชิด 3 กะตลอด 24 ชม. มีสัตว์แพทย์จากศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 – กระบกคู่ มาดูแลรักษาแผลที่สะดือและปาก ทั้งต้องปรับสูตรนม ให้กินได้ท้องไม่อืด ล่าสุด หลวงปู่เสถียร คุณวโร เมตตามาเยี่ยม เรียกขวัญกำลังใจจากทั้งน้องกันยา และพี่ๆเจ้าหน้าที่ที่คอยดูแลกันได้ล้นหลาม

“น้องกันยา” ลูกช้างป่าตัวน้อย ที่พลัดหลงจากโขลงบริเวณริมป่านาตู้ดำ ท้องที่บ้านเทพมีชัย ต.หนองเดิ่น อ.บุ่งคล้า จ.บึงกาฬ เจ้าหน้าที่เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัวและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้รับแจ้งว่า พบลูกช้างป่าเพศเมีย วัยประมาณ 2 สัปดาห์ เดินอยู่เพียงตัวเดียว จึงลงพื้นที่ไปรับมาดูแลใกล้ชิด พร้อมตั้งชื่อให้ว่า “น้องกันยา” เพราะพบตัวในเดือนกันยายน จากการตรวจสุขภาพเบื้องต้นพบว่าร่างกายมีอาการขาดน้ำ มีอุณภูมิสูง มีบาดแผลถลอกบริเวณสะดือ และหลังใบหู รวมถึงมีอาการถ่ายเหลว จึงเดินหน้ารักษาอาการป่วย มาจนถึงวันนี้ ขณะเดียวกันก็ตามหาโขลงที่แท้จริงของน้องกันยา เพื่อส่งคืนสู่ธรรมชาติไปพร้อมๆกัน

อีจันได้รับรายงานอาการล่าสุดของน้องกันยา จาก หมอเอิ๊บ มัชฌมณ แก้วพฤหัสชัย นายสัตวแพทย์ชำนาญการ หัวหน้าศูนย์ช่วยเหลือสัตว์ป่าที่ 2 (กระบกคู่) มาว่า

1. กินนม วันละ ประมาณ 9-10 มื้อ วันที่ 1 ตุลาคม ช่วงกลางวันมีท้องอืดเล็กน้อย วันที่ 2 ตุลาคม ไม่พบอาการท้องอืด แต่ยังมีถ่ายเหลววันละ 1-2 ครั้ง ป้อนเกลือแร่หรือน้ำสะอาดเสริมระหว่างมื้อนม

2. ให้กินวิตามินซี ขนาด 1,000 มิลลิกรัม วันละ 5 เม็ด และให้กินแคลเซียม ขนาด 400 มิลลิกรัม วันละ 19 เม็ด ทุกวัน เสริมวิตามินบีรวมบำรุงปลายประสาท วันละ 1 เม็ด

3. ให้โปรไบโอติกส์วันละ 1 ครั้ง เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการย่อยและดูดซึมอาหาร ลดอาการปวดเสียดท้องจากการท้องอืดได้

4. มีแผลตกสะเก็ดแห้งๆ บริเวณลำคอ ใต้คอ ใต้อก และหลังใบหู ทำการล้างแผล ทายาป้องกันการติดเชื้อและเพิ่มความชุ่มชื้น แผลค่อยๆ ดีขึ้นตามลำดับ

5. แผลที่สะดือเป็นแผลสดและมีขนาดเล็กลงทำการล้างแผลทุกวัน

6. มีแผลในปากบริเวณเพดานปาก กลางลิ้น และริมฝีปากล่าง ล้างปากและพ่นยาทุกวัน แผลเริ่มสมานดีขึ้น

7. พอกใบน้อยหน่าเพื่อกำจัดเหาช้างตามผิวหนัง และเช็ดตัวทำความสะอาดด้วยน้ำอุ่น

8. นอนหลับได้ดีทั้งในเวลากลางวันและกลางคืนหลังกินนมเสร็จ

9. ให้พี่เลี้ยงพาเดินเล่นช่วงเช้า-เย็นเพื่อช่วยให้มีการขยับตัว ป้องกันอาการท้องอืด

10. การก้าวเดินยังไม่ค่อยมั่นคงนัก

11. อุณหภูมิร่างกายที่วัดได้ทางทวารหนักอยู่ในช่วง 36-37 องศาเซลเซียส อยู่ในช่วงอุณหภูมิร่างกายปกติ ไม่มีไข้

12. ปัสสาวะเหลืองใส

13. นอนในคอกดินมีฟางรองเพื่อเพิ่มความอบอุ่นในเวลากลางคืน

14. ชั่งน้ำหนักวันที่ 1 ตุลาคม 2566 ได้ 69 กิโลกรัม

15. พี่เลี้ยงอนุบาลดูแลใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง เฝ้าระวังอาการท้องอืดและท้องเสียถ่ายเหลว

16. จะได้ทำการตรวจไข่พยาธิในทางเดินอาหารจากอุจจาระ เพื่อจะได้ทำการรักษาต่อไปหากพบ

แต่ตอนนี้น้องกันยายังคงต้องรักษาตัวต่อไป เพื่อให้พร้อมที่สุดในวันที่สามารถตามหาโขลงของน้องได้ และส่งตัวน้องกลับไปสู่ผืนป่า ให้ได้พร้อมหน้าพร้อมตากับครอบครัวในอนาคต

หนึ่งชีวิตมีค่ามากมายกว่าที่เราคิด ช่วยกันต่อชีวิตเล็กๆชีวิตนี้ ให้ได้เติบใหญ่ด้วยกันนะครับ