เศรษฐา มองปม บิ๊กต่อ-โจ๊ก แค่ลิ้นกับฟัน ธรรมดาทุกวงการ แต่งานอย่าเสีย

มิติใหม่การทำงาน ‘เศรษฐา’ ชอบถกวงเล็ก มองปม บิ๊กต่อ-โจ๊ก แค่ลิ้นกับฟัน เรื่องธรรมดาในทุกวงการ แต่งานต้องไม่เสีย

นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ให้สัมภาษณ์หลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันนี้ (3 ต.ค.66) ถึงการพบหารือกับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ว่า เป็นการหารือตามปกติ ไม่มีอะไรผิดปกติ และจากนี้ต่อไปจะเป็นการทำงานในลักษณะนี้ ไม่จำเป็นจะต้องไปประชุมใหญ่ ที่มีองคาพยพขนาดใหญ่ ในลักษณะการประชุมหลายสิบคน

อย่างการมาประชุมวันนี้ก็ประชุม 3-4 คน หรือ 6 คนเต็มที่ เพื่อให้ผู้ร่วมงานมีความกระตือรือร้น เรียกเช้ามาประชุมบ่าย หรือเรียกเช้า ต้องมาชี้แจงตอนสายได้ เป็นมิติใหม่ในการทำงาน เรียกเมื่อไหร่ต้องพร้อมชี้แจง ต้องเตรียมตัวให้ดีตลอดเวลา ถ้าถามแล้วตอบไม่ได้ ก็ไม่เป็นไร กลับไปหาข้อมูลมาได้ ไม่ต้องซีเรียสมาก

ทั้งนี้ มีการสั่งการและรับฟังความคิดเห็น จากเหตุการณ์ปัจจุบัน อย่างเรื่องการให้ฟรีวีซ่านักท่องเที่ยวจีนว่า จากการดำเนินการมีปัญหาอะไรบ้าง มีการบริหารจัดการกันอย่างไร และมีข้อเรียกร้องกันอย่างไร เพราะบางข้อเรียกร้องก็เกี่ยวข้องกับหน่วยงานอื่น ทั้งกระทรวงมหาดไทย กระทรวงการคลัง ซึ่งเป็นเรื่องของการใช้ภาษีต่างๆ ซึ่งก็ได้รับฟังและจะมีการหารือในกลุ่มอื่นต่อไป

นอกจากนี้ นายเศรษฐา ยังกล่าวถึงปมปัญหาในวงการตำรวจ โดยเฉพาะกรณีของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. กับ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ ว่า คิดว่าตั้งแต่ช่วงที่มีการแต่งตั้งออกไป ทั้ง ผบ.ตร.และรอง ผบ.ตร.สุรเชษฐ์ ก็มีภาพข่าวออกไปแล้วว่า มีการพูดคุยกันในเชิงบวก

“คนเราอยู่ด้วยกันก็มีลิ้นกับฟันเป็นธรรมดา แต่ผมเชื่อว่า ความตั้งใจจริงของทั้ง 2 ท่าน และอาจจะยังมีอีกหลายๆ คู่ที่อาจเป็นคู่กรณีกัน ซึ่งผมไม่ทราบ แต่เรามีนโยบายชัดเจนว่าเรามีภารกิจใหญ่ คือความมั่นคงของประเทศ การดูแลทุกข์สุขของประชาชนถือเป็นเรื่องสำคัญ เรื่องส่วนตัวเป็นอีกเรื่องหนึ่ง แต่ต้องทำงานให้ได้ ต้องไม่มีข่าวเชิงลบ ต้องบำบัดทุกข์บำรุงสุขให้พี่น้องประชาชนได้ตลอดเวลา” นายเศรษฐา กล่าวและว่า

“เป็นธรรมดาในทุกวงการ แม้แต่วงการสื่อมวลชน อยู่ที่นี่ก็อาจจะมีการทะเลาะกันบ้างเป็นธรรมดา บางคนไม่พูดคุยกันก็มี ถือเป็นธรรมดา”

ส่วนนายกรัฐมนตรีพร้อมจะห้ามศึกใช่หรือไม่ นายเศรษฐา กล่าวว่า คิดว่าเราไม่ต้องห้าม เรามีการพูดคุยกันอย่างเป็นผู้หลักผู้ใหญ่ ไม่จำเป็นที่ว่าการพูดคุยแล้วจะต้องมีการทะเลาะเบาะแว้ง ไม่จำเป็น เราผิดใจกันได้ แล้วก็กลับมาสมานใจกันได้ใหม่ สังคมอยู่ด้วยกันมาจากหลายที่หลายทาง จะให้เห็นตรงกันทั้งหมดเป็นไปไม่ได้ ท้ายที่สุดก็ต้องมีการพูดคุยกัน ในภาษาที่น่าฟัง ไม่ใช่ไปด้อยค่าซึ่งกันและกัน ต้องไม่มีการดูถูกดูแคลนกัน

คลิปอีจันแนะนำ
ย้อนเส้นทางชีวิต “โจ๊กหวานเจี๊ยบ”