“ปิยบุตร” ส่งสัญญาณ “ก้าวไกล” ถอยไปเป็นผู้นำฝ่ายค้าน

“ปิยบุตร” โพสต์เฟซบุ๊กส่งสัญญาณ “ก้าวไกล” ถอยไปเป็นผู้นำฝ่ายค้าน หลังผลโหวตนายกฯ พิธา ไม่ผ่านด่าน ส.ว.

หลังจากเมื่อวานนี้ผลการโหวตนายกรัฐมนตรีของรัฐสภา ที่มี ส.ส. และ ส.ว. ร่วมโหวตรับรองนายกรัฐมนตรีคนที่ 30 ซึ่ง 8 พรรคร่วมรัฐบาลเสนอชื่อนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล เป็นนายกรัฐมนตรี ผลโหวตนายพิธาได้เสียง 324 เสียง ไม่ถึงกึ่งหนึ่งคือ 375 เสียง ทำให้ไม่ผ่านได้เป็นนายกฯ

ผลโหวตพิธาเป็นนายกรัฐมนตรี คนที่ 30 ของประเทศไทย ยังไม่ผ่าน ด่าน ส.ว.

หลังผลโหวตปรากฏ ช่วงเย็นวันที่ 13 ก.ค.66 นายปิยบุตร แสงกนกกุล เลขาธิการคณะก้าวหน้า โพสต์แสดงความเห็นกรณีที่นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล ไม่ผ่านการโหวตจากที่ประชุมรัฐสภา ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรี ว่า แก้ 272 ปิดสวิทช์ ส.ว. หากพวกเขายังไม่ยอมอีก ก็ถอยมาเป็นผู้นำฝ่ายค้าน โดยสรุปใจความได้ว่า…

ผมติดตามการอภิปรายของสมาชิกรัฐสภาแต่ละฝักฝ่ายในการประชุมรัฐสภาเพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีในวันนี้

เห็นได้อย่างชัดเจนว่า…

มีสมาขิกวุฒิสภาจำนวนมาก ทั้งที่ออกหน้ากล้าลงคะแนนไม่เห็นชอบ และทั้งที่ไม่กล้าออกหน้า เลือกงดออกเสียงหรือไม่มาประชุมแทน

พวกเขาเหล่านี้ ให้ตายก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจกลับมาลงคะแนนเห็นชอบให้พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ เป็นนายกรัฐมนตรีอย่างแน่นอน

หากเราลองฟังเหตุผลของ ส.ว.และ ส.ส.อีกข้างหนึ่ง จำนวนหลายคนที่ได้อภิปรายในวันที่ 13 ก.ค. พวกเขาต่างยืนยันว่า ไม่เห็นชอบให้พิธาเป็นนายกรัฐมนตรี เพราะ พรรคก้าวไกลต้องการเสนอร่างพระราชบัญญัติแก้ไขประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112

วิทยา แก้วภราดัย

ชาดา ไทยเศรษฐ์

ชัยชนะ เดชเดโช

คำนูณ สิทธิสมาน

เสรี สุวรรณภานนท์

สมชาย แสวงการ

ต่างก็ยืนยันว่า ติดขัดอยู่เรื่องนี้แหละ วิทยา กับ ชาดา ถึงขนาดบอกว่า ก็รู้อยู่ว่าติดอยู่เรื่องนี้ ทำไมไม่ถอยเสีย

ในขณะที่พรรคก้าวไกล ก็ยืนยันว่า นี่คือนโยบายที่ได้รณรงค์หาเสียงกับประชาชนมาแล้ว จำเป็นต้องดำเนินการต่อ แต่ก็เป็นเรื่องของ ส.ส.พรรคก้าวไกลที่จะเสนอร่างเข้าสภา มิใช่เป็นเรื่องของรัฐบาล

นอกจากนี้ นายปิยบุตร ระบุว่า ไม่มีทางที่ ส.ส.และ ส.ว.เหล่านี้ จะเปลี่ยนใจได้เลย เนื่องด้วย ม.112 และการลงคะแนนเสนอพิธาไปเรื่อยๆ โดยไม่ได้ทำอะไรอื่นเลย ไม่มีทางที่จะได้คะแนนเพิ่มมากกว่าวันนี้

อย่างน้อย พรรคก้าวไกลก็ได้ทำให้ประชาชนเห็นแล้วว่า พยายามต่อสู้อย่างถึงที่สุดแล้ว พยายามปกป้องคะแนนเสียงร่วม 27 ล้านเสียง พยายามแปลงคะแนนเหล่านี้ให้ออกมาเป็นผลลัพธ์อย่างเต็มที่แล้ว

แล้วถอยออกมา

ประจานระบบนี้ให้สังคมไทยได้รู้

ให้ประชาชนผู้ทรงอำนาจสูงสุดของประเทศได้รู้กันอย่างถ้วนหน้าว่า “พวกเขาจากหลายฝักฝ่าย” รวมหัวกันสกัดกั้นและทำลายพรรคก้าวไกลผู้ทำหน้าที่ยานพาหนะของความหวัง

จงยืดอกอย่างภูมิใจและทระนงองอาจในความเป็น “แกะดำ” ของการเมืองไทย ในวันนี้

แล้วอดทนรณรงค์อย่างต่อเนื่อง

เส้นแบ่ง “ใหม่/เก่า” และขั้วขัดแย้งในการเมืองไทย ชัดขึ้นกว่าเดิม แหลมคมกว่าเดิม

เมื่อ 14 ล้านยังไม่พอในวันนี้

ต้องทำให้ได้ถึง 20 ล้าน 25 ล้านในวันพรุ่ง !!!

คลิปอีจันแนะนำ
ก้าวไกล น้ำตาท่วม! ขอโทษ วันนี้ไม่ถึงฝัน แต่ไม่ยอมแพ้