วันที่ 27 ต.ค. นี้ พรรคเพื่อไทย จะทำการเสนอชื่อผู้ที่มีความเหมาะสมเพื่อเลือกหัวหน้าพรรคเพื่อไทยคนใหม่ หลัง นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ลาออกจากตำแหน่ง ทั้งนี้กระแสล่าสุด ชื่อที่ถูกพูดถึง คือ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร หัวหน้าครอบครัวเพื่อไทยและลูกสาวของ นายทักษิณ ชินวัตร ที่จะถูกเสนอชื่อให้นั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรค จากนั้นผู้สื่อข่าวได้สอบถาม อุ๊งอิ๊ง ว่า หากถูกเสนอชื่อเป็นหัวหน้าพรรคเพื่อไทยจะพร้อมไหม ซึ่งเจ้าตัวตอบด้วยสีหน้ามั่นใจว่า พร้อมค่ะ
อย่างไรก็ตามเดิมทีมีการคาดการณ์ไว้ว่า อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร จะใช้เวลาอีกประมาณ 1-2 ปี ก่อนจะก้าวสู่ตำแหน่งหัวหน้าพรรค แต่ล่าสุดเหมือนสถานการณ์จะเปลี่ยนไปเมื่อเจ้าตัวแสดงความมั่นใจพร้อมนั่งเก้าอี้หัวหน้าพรรค
ซึ่ง อาจารย์สุขุม นวลสกุล อดีตอธิการบดีมหาวิทยาลัยรามคำแหง ให้ความเห็นในเรื่องนี้ผ่านรายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand ว่า ถ้าคุณอุ๊งอิ๊งได้เป็นหัวหน้าพรรค ก็จะเป็นการสยบปัญหาการแย่งชิงภายในพรรค หรือพูดตรงๆก็คือเจ้าของพรรคเขาจะเป็นหัวหน้าพรรค สำหรับรัฐบาลก็คาดการณ์ว่า 6 เดือนปรับ ครม. แน่ ซึ่งหากมีการปรับจะเกิดแรงกระเพื่อมแน่นอน ส่วนตัวผมมองว่าทั้งจากกระแสควานิยม หรือผลสำรวจต่างๆก็ควรจะเป็นคุณอุ๊งอิ๊งตั้งนานแล้วนะ ตอนนั้นมองกันว่าคุณเศรษฐา เข้ามาคงล่ม แล้วก็คงจะเป็นอันดับต่อมาอย่างคุณอุ๊งอิ๊งซึ่งดูแน่นอนกว่า (โหวตเลือกนายกรัฐมนตรี)
ส่วนการแสดงความพร้อมรับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อด้วยเหตุผลที่สยบความขัดแย้งหรือไม่นั้น อ.สุขุมกล่าวว่า เรื่องเรตติ้งของพรรคยังไม่เสียหายและคงไม่ใช่ปัญหาเท่าไร เพราะตอนนี้ก็มีการปรับลดราคาพลังงาน ลดค่าโดยสารรถไฟฟ้า มันทำให้เห็นว่าสิ่งที่เขาได้พูดนั้นทำได้จริง ส่วนเงินดิจิทัลนั้นจริงๆก็ปีหน้าเลย
และการตอบโต้ของคุณกิตติรัตน์ ถือค่อนข้างเคลียร์ว่าอย่ามองแต่ด้านลบ ประเทศไหนก็ทำ และทำให้เห้นว่าไม่ใช่นโยบายที่ใช้หาเสียง แต่เป็นนโยบาลที่ทั่วโลกเขาใช้กัน ซึ่งตรงจุดนี้เครดิตของเพื่อไทยไม่ได้ลดลงเลย แต่เวลาเดียวกันพรรคคู่แข่งอย่างก้าวไกลดูจะเสียเพราะเรื่องคุกคามทางเพศมากกว่า ส่วนการให้คุณอุ๊งอิ๊งขึ้นหัวหน้าพรรคตอนนี้นั้นก็แสดงให้เห็นว่าเขาจะเป็นรัฐบาลต่อเนื่องแน่ และเป็นการสยบปัญหาภายในและภายนอกพรรคได้เป็นอย่างดี
ก่อนหน้านี้ตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทยที่ว่างอยู่นั้น มีชื่อของ นายแพทย์ชลน่าน ศรีแก้ว ที่ถูกพูดถึงว่า อาจจะถูกเสนอให้กลับมาอีกครั้ง แต่ล่าสุดดูจะเหลือแคนดิเดตเพียงคนเดียว คือ อุ๊งอิ๊ง แพทองธาร ชินวัตร