เริ่ม ส.ค.นี้ ชาวกัมพูชาไม่เรียกลูกฮุนเซนว่า นายกรัฐมนตรี อาจผิดกฎหมาย

‘สมเด็จฮุนเซน’ ส่งไม้ต่อลูกชายนั่งนายกรัฐมนตรี เริ่มเลยเดือน ส.ค.นี้ ชาวกัมพูชาไม่เรียก ‘ฮุน มาเนต’ ว่านายกรัฐมนตรี อาจผิดกฎหมาย

ถือได้ว่า เป็นการปิดตำนาน ผู้นำประเทศที่ครองอำนาจยาวนานที่สุดในโลก รวม 38 ปี ของ ‘สมเด็จฮุนเซน’ ผู้นำของกัมพูชา ที่ได้ประกาศลาออกจากตำแหน่ง และส่งไม้ต่อให้กับลูกชายคนโตนั่นคือ ‘ฮุน มาเนต’ วัย 45 ปี หลังจากที่เขาชนะการเลือกตั้งที่จัดขึ้นทุกๆ 5 ปี ของกัมพูชา เมื่อวันที่ 23 ก.ค.66 อย่างถล่มทลาย ซึ่งก่อนหน้านี้ ‘สมเด็จฮุนเซน’ เคยบอกไว้ว่า พรรคประชาชนกัมพูชา (CPP) ของเขาจะปกครองกัมพูชาไปอีก 100 ปี และยังบอกอีกว่า ฝ่ายค้านอย่าได้หวัง

ทั้งนี้ หากย้อนไปเมื่อปี 56 จะเห็นตัวอย่างได้ชัดเจน โดยในการเลือกตั้งครั้งนั้น มี 1 พรรค ที่ดูเหมือนจะมาท้าทายพรรค CPP ได้อย่างดี ชื่อว่า พรรคสงเคราะห์ชาติ (CNRP) ของนายสม รังสี ซึ่งพรรคนี้คนหนุ่มสาวชื่นชอบ หลังจากคะแนนเลือกตั้งออกมา ได้มา 55 ที่นั่งจาก 123 ที่นั่งซึ่งถือว่าสูสี

แต่สุดท้าย ‘สมเด็จฮุนเซน’ เห็นว่า น่าจะเป็นภัย พรรค CNRP ถูกยุบ ลูกพรรคทั้ง 118 คนถูกตัดสิทธิ์ทางการเมืองไป 5 ปี หัวหน้าพรรคดวงข้อหากบฏ รวมไปถึงข้อหาสมรู้ร่วมคิดกับสหรัฐอเมริกาโทษจำคุก 30 ปี โดยพรรคนี้โดนข้อหาว่าวางแผนเพื่อที่จะโค่นล้มรัฐบาลของ ‘สมเด็จฮุนเซน’

ถัดมาการเลือกตั้งครั้งนี้ ก็มีพรรคเกิดใหม่ขึ้นอีก นั่นคือ พรรคแสงเทียน (CP) มีวี่แววน่าสนใจ คนรุ่นใหม่เช่นเดียวกัน แต่ที่สุดแล้วในการเลือกตั้งที่ผ่านมา เมื่อเดือน พ.ค.66 พรรคนี้ถูกตัดสิทธิ ข้อหาว่าส่งเอกสารไม่ทัน จึงไม่ได้ลงเลือกตั้ง จึงเหลือแค่พรรคเดียวในการเลือกตั้ง นั่นคือพรรคของ ‘สมเด็จฮุนเซน’

หลังจากที่ชนะการเลือกตั้งเสร็จสรรพเรียบร้อย ‘ฮุน มาเนต’ ว่าที่นายกรัฐมนตรีคนต่อไปของกัมพูชา โพสต์เฟซบุ๊ก ขอบคุณประชาชนที่ออกมาใช้สิทธิใช้เสียง และยังบอกอีกว่า นี่แหละเป็นการทำงานอันหนักหน่วงของพรรค จนกระทั่งนำมาสู่ความสำเร็จในครั้งนี้

กรณีดังกล่าว ทั่วโลกเป็นที่จับจ้องว่า ที่สุดแล้วเมื่อลูกชายของ ‘สมเด็จฮุนเซน’ ขึ้นมาบริหารประเทศแล้ว จะเหมือนคุณพ่อหรือไม่ หรืออาจจะไปอีกทาง ในแนวของคนรุ่นใหม่ เพราะอาจจะได้รับวัฒนธรรมจากตะวันตกมา เพราะ ‘ฮุน มาเนต’ จบการศึกษาจากต่างประเทศ โดยจบจากโรงเรียนนายร้อย The United States Military Academy หรือ West Point ซึ่งได้รับการยกย่องว่าเป็นโรงเรียนนายร้อยที่ดีที่สุดในโลก ตั้งอยู่ในเมืองเวสต์พอยต์ รัฐนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกา

และหลังจากนั้น ก็จบปริญญาโทจากมหาวิทยาลัยนิวยอร์ก ในสหรัฐอเมริกาเช่นกัน และปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยบริสตอล (University of Bristol) ของอังกฤษ

ทำให้ตอนหาเสียง ‘ฮุน มาเนต’ เป็นเหมือนซุปเปอร์สตาร์ ทั้งหน้าตาที่โดดเด่นและโปรไฟล์ดี ชาวกัมพูชาจึงหวังว่าน่าจะเป็นความหวังครั้งใหม่ แต่บางคนก็บอกว่า หากมองดูดีๆ แล้ว ‘ฮุน มาเนต’ เกิดและเติบโตมาบนกองเงินกองทอง ต่างจากผู้เป็นพ่อที่เติบโตมาจากเด็กวัด ปากกัดตีนถีบ ต่อสู้มาต่างๆ นานาเหมือนคนเคยลำบากมาก่อน จึงนำพาประเทศผ่านช่วงลำบากมาได้

แต่ที่ผ่านมา ‘ฮุน มาเนต’ มีภาพลักษณ์ไปในทางสายบุญ มีใจบุญสุนทาน และผลงานของเขาส่วนใหญ่ช่วงการระบาดของโควิด-19 ระบาด ก็คือรณรงค์การฉีดวัคซีน ตาม ‘สมเด็จฮุนเซน’ ไปเปิดโรงเรียน โรงพยาบาล แทบจะทุกหนทุกแห่ง จนกระทั่งได้เข้าพบบุคคลสำคัญของโลก อย่าง นายฟูมิโอะ คิชิดะ นายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น รวมถึง นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน ก็ได้เจอมาแล้ว

นอกจากนี้ ‘สมเด็จฮุนเซน’ ยังบอกอีกว่า ‘ฮุน มาเนต’ จะถูกแต่งตั้งขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีในวันที่ 10 ส.ค.66 ซึ่งก็แอบตรงกับวันที่ นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี มีกำหนดเดินทางกลับไทย แบบพอดิบพอดี และหากใครไม่เรียกลูกชายของเขาว่า นายกรัฐมนตรีอาจจะผิดกฎหมาย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง:

สมเด็จฮุนเซน ชนะเลือกตั้งกัมพูชา ล่มทลาย-ไร้คู่แข่ง ครองอำนาจปีที่ 39