จากกรณี ชาวต่างชาติสัญชาติจีนร่างกายผิดรูปร่าง ไม่มีแขน ใบหน้าผิดรูป มานั่งขอทานย่านใจกลางเมือง หรือแหล่งที่มีผู้คนพลุกพล่าน ทำให้มีรายได้เป็นจำนวนมาก ที่เป็นกระแสข่าวไปนั้น
วันนี้ (21 พ.ย. 66) ที่กองบัญชาการตำรวจนครบาล พล.ต.ต.อำนาจ ไตรพจน์ รอง ผบช.น. พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง แถลงความคืบหน้าเกี่ยวกับกรณีดังกล่าวว่า ตามข้อมูลเบาะแสได้รับแจ้งมา ผลการดำเนินการสามารถให้ความช่วยเหลือกับชาวต่างชาติ และดำเนินคดีตามกฎหมายกับกลุ่มบุคคลดังกล่าว ได้จำนวน 6 ราย ดังนี้
รายที่ 1 “Miss Kang Hongbi” สัญชาติจีน จับกุมตัว วันที่ 10 พ.ย. 66 ในพื้นที่ สน.ปทุมวัน บริเวณสกายวอร์ค BTS หน้าห้างสรรพสินค้าสยามสแควร์ ความผิดฐาน "กระทำการด้วยวิธีใดให้ผู้อื่นเกิดความสงสารและส่งมอบเงินหรือทรัพย์สินให้ (ขอทาน) ตาม ม.13 พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ.2559“ เปรียบเทียบปรับ 100 บาท
รายที่ 2 ”Miss Wu Ganghui“ สัญชาติจีน จับกุมตัววันที่ 18 พ.ย. 66 ในพื้นที่ สน.พญาไท บริเวณสะพานลอยตรงข้ามห้างแพลตตินัม ความผิดฐาน "เป็นบุคคลขอทานตาม พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ.2559 ม.13 และเป็นบุคคลต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ผ่านช่องทางตรวจคนเข้าเมือง เขต ท่า สถานี หรือท้องที่ตามกำหนด และอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยไม่ได้รับอนุญาต" เปรียบเทียบปรับเป็นเงิน 100 บาท
รายที่ 3 “Ms.Yuan Shasha” สัญชาติจีน จับกุมตัววันที่ 19 พ.ย. 66 ในพื้นที่ สน.บางพลัด บริเวณห้างเมเจอร์ปั่นเกล้า ความผิดฐาน "เป็นบุคคลขอทานตาม พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ.2559 ม.13" เปรียบเทียบปรับ เป็นเงิน 400 บาท
รายที่ 4 “MR.HOUYONG FAN” สัญชาติจีน จับกุมตัววันที่ 20 พ.ย. 66 ในพื้นที่ สน.ลุมพินี บริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS อโศก ความผิดฐาน "กระทำการด้วยวิธีการใดเพื่อให้ผู้อื่นเกิดความสงสาร และส่งมอบเงินหรือทรัพย์สินให้ พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ.2559 ม.13" เปรียบเทียบปรับ 500 บาท
รายที่ 5 “Mr.Wang Wanlong” สัญชาติจีน จับกุมตัววันที่ 20 พ.ย. 66 ในพื้นที่ สน.บางรัก บริเวณถนนสีลม ซอย 4 ความผิดฐาน "เป็นบุคคลขอทานตาม พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ.2559 ม.13" อยู่ระหว่างการดำเนินการ
รายที่ 6 “Miss.Hu Haiyan” สัญชาติจีน จับกุมตัววันที่ 20 พ.ย. 66 ในพื้นที่ สน.ทุ่งมหาเมฆ บริเวณสถานีรถไฟฟ้า BTS ศาลาแดง ความผิดฐาน"เป็นบุคคลขอทานตาม พ.ร.บ.ควบคุมการขอทาน พ.ศ.2559 ม.13" อยู่ระหว่างการดำเนินการ
โดย พ.ต.อ.ธีรศักดิ์ จันทราพิพัฒน์ ผู้กำกับการสวัสดิภาพเด็กและสตรี เผยว่า บุคคลกลุ่มนี้ได้ให้การว่าเข้ามาในประเทศไทยด้วยวีซ่านักท่องเที่ยว แต่เงินหมดเลยไปเดินที่เยาวราชและมีคนไทยแนะนำให้นั่งขอทานเพราะรายได้ด
อีกทั้งยังมีบางรายได้ไปสมัครเป็นนักศึกษา ม.เอกชนดังแห่งหนึ่ง เพื่อเปลี่ยนจากวีซ่านักท่องเที่ยวเป็นวีซ่านักศึกษา ส่วนเรื่องหน้าตาที่เสียโฉม มี 4 ราย ให้การตรงกันเพียงว่าเกิดอุบัติเหตุไฟไหม้ที่จีน และไม่ให้รายละเอียดใดๆ เพิ่มเติม
นอกจากนี้ ยังพบว่าทั้ง 6 คน เดินทางเข้ามาในประเทศไทยคนละไฟล์ทกัน และกลับมีบางคนใช้ล่ามซ้ำกัน และบางคนก็พักอาศัยในที่เดียวกันด้วย จึงจะได้มีการตรวจสอบความเชื่อมโยงของบุคคลทั้งหมดอีกครั้ง
ด้านข้อมูลขอทานในประเทศไทย นายศราวุธ มูลโพธิ์ ผอ.กองคุ้มครองสวัสดิภาพและเสริมสร้างคุณภาพชีวิต กรมพัฒนาสังคมและสวัสดิการ (พม.) กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2559 ประเทศไทยมีขอทานทั้งหมด 7,151 คน เป็นคนไทย 4,675 คน และต่างด้าว 2,463 คน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นชาวกัมพูชาและเมียนมา
ขณะที่ก่อนโควิด-19 พบขอทานคนจีน 86 คน ส่วนใหญ่เป็นกลุ่มเปราะบางคือพิการและสูงอายุ แต่กลุ่มที่จับได้ในเดือนนี้จะเป็นกลุ่มวัยแรงงาน อายุ 22-41 ปี อย่างไรก็ตาม ทาง พม. ได้มีการจัดระเบียบเพิ่มมากขึ้นในจุดสำคัญโดยร่วมกับตำรวจและกรุงเทพมหานคร รณรงค์ประชาสัมพันธ์ขอให้ประชาชนหยุดให้เงินขอทานและหยุดสนับสนุนขอทานในทุกรูปแบบ
ทั้งนี้ กลุ่มบุคคลต่างชาติดังกล่าวได้ถูกดำเนินคดีในส่วนที่ได้กระทำความผิดเกี่ยวกับกฎหมายของประเทศไทย และอยู่ในระหว่างในการขยายผลว่าการเข้ามาและมานั่งขอทานในประเทศไทยเป็นเหยื่อของขบวนการ หรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับองค์กรอาชญากรรมข้ามชาติหรือไม่ ซึ่งอยู่ในระหว่างการพิจารณาของหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หลังจากนั้นจะได้นำตัวส่งสำนักงานตรวจคนเข้าเมืองเพื่อรอการส่งกลับต่อไป
