ที่บ้านของนายอาคม ครชาตรี ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 7 ต.อ่าวตง อ.วังวิเศษ จ.ตรัง ซึ่งผู้ใหญ่บ้านได้ผุดไอเดีย การเลี้ยงมดแดง มาเป็นเวลา 3-4 ปีแล้ว ได้ปลูกต้นมะม่วง และต้นไม้ชนิดต่างๆ โดยนำ เศษเนื้อหรือปลา รวมถึงกระดูก มาผูกไว้กับต้นไม้ เพื่อเป็นอาหารของ มดแดง ใช้เชือกขึงจากต้นไม้ต้นหนึ่งไปยังอีกต้นหนึ่ง เพื่อทำทางเดินให้กับมดแดง ช่วยประหยัดเวลาการเดินบนพื้นดินและไม่ถูกสัตว์ประเภทอื่นรบกวน
โดยปัจจุบัน มีเกษตรกรจากหลายตำบลเดินทางมาศึกษาดูงาน และนำกลับไปเลี้ยงบ้าง เพื่อสร้างรายได้เสริม และยังเป็นแหล่งอาหารในครัวเรือนโดยไม่ต้องซื้อหา ทั้งยังปลอดภัยจากการใช้สารเคมีด้วย แม้จะเจ็บตัวบ้างเวลาแยงไข่มดแดง แล้วมีมดแดงจำนวนมากมากัด แต่ก็ต้องอดทน และจะเลี้ยงต่อไปเรื่อยๆ หลังประสบความสำเร็จกับการเห็นมดแดงขยายรังเพิ่มขึ้นต้นละ 5-8 รังบนต้นมะม่วงต้นใหญ่ หากเป็นต้นมะม่วงต้นเล็กจะได้ 2-4 รัง ซึ่งต้นมะม่วงต้นใหญ่ 1 ต้นจะ แยงไข่มดแดง ได้เกือบ 1 กิโลกรัม รวมถึงต้นไม้อื่นๆที่มดแดงขึ้นไปทำรัง
ซึ่งผู้ใหญ่อาคม บอกว่า แต่เดิมเวลาอยากกินไข่มดแดงต้องออกไปหาในป่าธรรมชาติ แต่หลายครั้งก็ไม่ทันชาวบ้านที่ออกไปหามาก่อนหน้า หากจะซื้อกินก็กลัวว่าจะใช้สารเคมีในการกำจัดมดแดง จึงมองเห็นว่าในสวนหลังบ้านมีต้นมะม่วงอยู่หลายต้นและมีมดแดงทำรังอยู่หลายรัง จึงเกิดไอเดียเลี้ยงมดแดงไว้กินเอง โดยพยายามให้น้ำและอาหาร จนกระทั่งมีรังมดแดงมากขึ้น เหลือจากบริโภคในครัวเรือนแล้วยังได้ขายในราคากิโลกรัมละ 300-350 บาทด้วย
ซึ่งหากมดแดงทำรังจำนวนมาก จะมีรังมดแดงกว่า 100 รัง มีการรวมกันของชาวบ้านที่มาช่วยกันเลี้ยงมดแดง ประมาณ 5-6 คน มดแดงจะทำรังและมีไข่มดแดงจำนวนมากในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนเมษายน ในช่วงระยะเวลาดังกล่าว สามารถเก็บไข่มดแดงไปขายได้ สร้างรายได้ให้กลุ่ม ที่มีอยู่ 5-6 คน ตกคนละ1 หมื่นบาท นับว่าเป็นรายได้ที่ดีในช่วงระยะเวลา 2-3 เดือน ไข่มดแดงที่เลี้ยงนั้นปราศจากสารเคมีอย่างแน่นอน
