ในสมัยก่อนกุ้งก้ามแดงหรือที่คนจีนเรียกว่า เสี่ยวหลงเซีย ถือเป็นศัตรูพืชที่ชาวนาจีนพยายามกำจัด แต่ในวันนี้กลับกลายเป็นสินค้าเกษตรที่มีความต้องการสูงในประเทศจีน จนเกิดไอเดียภัตตาคารกุ้งก้ามแดงนับหมื่นๆ แห่ง และมีการตั้งศูนย์วิจัยกุ้งก้ามแดงขึ้นมาโดยเฉพาะ แถมยังเปิดหลักสูตรอาชีวะเพื่อพัฒนาเชฟฝีมือดีในการปรุงอาหารจากกุ้งชนิดนี้ ขึ้นมาเป็นการเฉพาะ นอกจากนั้น ยังมีบริษัทไบโอเทคของจีน มานำเศษกุ้งก้ามแดงที่เหลือทิ้งไปสกัดเอาสาร “ไคติน” ซึ่งใช้ในอุตสาหกรรมเภสัช อีกด้วย
การเลี้ยงกุ้งเครย์ฟิช ใช้เวลเพียงไม่นาน แถมยังได้ผลตอบแทนที่ สูงกว่าการปลูกข้าวถึง 10 เท่า ทำให้การเลี้ยงกุ้งในนาข้าวกลับกลายเป็นรายได้หลักอีกทาง ที่ทำร่วมกับการปลูกข้าวแบบเดิม กำไรต่อล็อต หลังจากหักต้นทุนแล้ว อยู่ที่ไร่ละ 4,800 – 7,200 หยวน รายได้สุทธิอยู่ที่ 12,000 หยวน/ไร่/ปี (ประมาณ 62,600 บาท/ไร่/ปี)
ราคากุ้งเครย์ฟิชในจีน จะขายได้ราคาสูงในช่วงต้นฤดูในเดือนมีนาคม – เมษายน และช่วงปลายฤดูในช่วงเดือนกรกฎาคม – สิงหาคม ขณะที่ช่วงเดือนพฤษภาคม – มิถุนายน ซึ่งเป็นช่วงกลางฤดูที่กุ้งเครย์ฟิชออกสู่ตลาด จะได้ราคาค่อนข้างต่ำ นอกจากนี้ ขนาดของกุ้งเป็นตัวกำหนดราคาของกุ้งเครย์ฟิช กุ้งขนาดกลาง-ใหญ่จะมีราคาสูงเป็นพิเศษ และมักมีปริมาณไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด เป็นสาเหตุที่ต้องนำเข้าจากประเทศไทยและอื่นๆจึงเป็นโอกาสสำหรับ ฟาร์มกุ้งเครย์ฟิชในประเทศไทย ในการวางแผนการผลิตและส่งออกกุ้งเครย์ฟิช นอกฤดูหรือต่างฤดูเพื่อป้อนตลาดจีน