ประโยชน์ของว่านหางจระเข้ ช่วยรักษาโรคหิด

โรคหิด อันเกิดมาจากอาการคัน สามารถแก้ได้ด้วย ว่านหางจระเข้

ในปัจจุบันแล้ว หลายคนอาจจะไม่ค่อยได้ยิน โรคหิด ในชีวิตประจำวันมากเท่าที่ควร เนื่องจากการดูแลที่ดีขึ้น แต่อย่างไรก็ตามโรคนี้ก็ยังไม่หมดไป การติดต่อสัมผัสคนที่เป็น โรคหิด นั้น มักจะพบบ่อยในบริเวณพื้นที่ที่อยู่กันอย่างหนาแน่น ชุมชนแออัด เป็นต้น

โดย อาการคัน มาก ซึ่งจะเกิดจากการที่ ตัวหิด ขุดเจาะผิวหนังชั้นบนสุดจนเป็นโพรง ส่งผลถึงระบบภูมิคุ้มกันต้านทานโรค (Immune system) ของร่างกายมีการหลั่งสารเคมี ทำให้เกิดอาการขึ้นมา ซึ่งมักพบตุ่มขึ้นที่ข้อมือ ง่ามนิ้วมือ ข้อศอก ท้อง เอว เมื่อให้การรักษา ควรรักษาผู้เป็นหิดพร้อมผู้ใกล้ชิด หรืออาศัยบ้านเดียวกัน แม้ว่าจะไม่มีอาการ รวมทั้งต้อง กำจัดหิด ในสภาพแวดล้อม เช่น เสื้อผ้า ผ้าปู และที่นอน

ยาที่ใช้รักษา มีทั้งแบบยากิน และยาทาใช้ภายนอก โดยจะใช้เวลารักษาประมาณ 4 สัปดาห์ ปัจจุบันได้มีการวิจัยฤทธิ์ของว่านหางจระเข้ ที่นำมาสกัดแล้วทำเป็นเจลทาภายนอก ความเข้มข้น 25 เปอร์เซ็นต์ และ 12.5 เปอร์เซ็นต์ ทดสอบในผู้ใหญ่และเด็กที่เป็นโรคหิด โดยให้ทา เจลว่านหางจระเข้ ติดต่อกันนาน 3 วัน ตั้งแต่บริเวณลำคอลงมาถึงเท้า และทาซ้ำอีกครั้งในสัปดาห์ถัดไป

ผลปรากฏว่า อาการคันลดลง ตุ่ม ผื่นลดลง รอยแผลแห้ง และจางลง ซึ่งมีประสิทธิภาพดีใกล้เคียง เมื่อเปรียบเทียบกับยาทาแผนปัจจุบัน (benzyl benzoate lotion) โดยไม่พบผลข้างเคียงที่ร้ายแรง คาดว่าเป็นผลจากสารกลุ่มแอนทราควิโนนที่ออกฤทธิ์ยับยั้งเชื้อ ข้อมูลดังกล่าว สนับสนุนภูมิปัญญานานนับพันปีในตำราสมุนไพรโบราณว่า มีการนำสมุนไพรว่านหางจระเข้มารักษาคันที่ผิวหนัง โรคผิวหนัง ผิวด่างดำ ช่วยบำรุงผิวหนังได้