เกษตรตรัง โค่นสวนยาง ปลูก ชมพู่ทับทิมจันทร์ สร้างรายได้หลักแสน !

ชมพู่ทับทิมจันทร์ สุดยอดผลไม้ ความต้องการในตลาดสูง ได้ราคาดี ! สร้างรายได้กว่า 4 แสนบาทต่อปี

นายปรีชา พรหมห้อง อายุ 42 ปี เกษตรกรหมู่ที่ 10 ต.ควนเมา อ.รัษฎา จ.ตรัง ตัดสินใจ โค่นยางพารา หันมาปลูกชมพู่ทับทิมจันทร์ปลอดสารเมื่อ 5 ปีที่ผ่านมา หลังราคายางพาราผันผวน โดยเริ่มปลูกจำนวน 150 ต้นบนเนื้อที่ 20 ไร่ ผ่านไป 1 ปี ชมพู่ทับทิมจันทร์ เริ่มให้ผลผลิตและเก็บขายได้มากขึ้นเรื่อย ๆ ตามขนาดลำต้นที่ใหญ่ขึ้น อีกทั้งยังมีลูกดก และติดผลตลอดทั้งปี แถมราคาขายปลีกสูงถึงกิโลกรัมละ 70 บาท และขายส่งกิโลกรัมละ 45-50 บาท ซึ่งดีกว่าการทำสวนยางพาราหลายเท่า ทำให้ทุกวันนี้มีรายได้ไม่ต่ำกว่า 400,000 บาทต่อปี หรือเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 20,000 บาทต่อเดือน

โดยทางเกษตรกร จึงได้ตัดสินใจขยายพื้นที่ปลูกชมพู่ทับทิมจันทร์เพิ่มอีก 5 ไร่รวม 25 ไร่ พร้อมขายกิ่งพันธุ์ในราคากิ่งละ 80 บาท เพื่อเป็นรายได้เสริมอีกทางหนึ่งด้วย ทำให้ตอนนี้กลายเป็นแหล่งปลูกชมพู่ทับทิมจันทร์แหล่งใหญ่ในจ.ตรัง ซึ่งมีบรรดาพ่อค้าแม่ค้าเดินทางมารับซื้อถึงสวน โดยมีผลผลิตไม่เพียงพอต่อความต้องการของตลาด จนแม่ค้าต้องเข้าคิวจองกันเป็นรุ่น ๆ เลยทีเดียว

นอกจากนี้ ยังมีเกษตรกรที่สนใจแวะเวียนไปศึกษาดูงานและซื้อกิ่งพันธุ์ไปปลูกเป็นจำนวนมาก แต่ก็ยังไม่ทำแปลงใหญ่ ซึ่งวิธีการดูแลไม่ยุ่งยาก มีโรคและแมลงรบกวนน้อย ให้ผลผลิต 4-5 รุ่นต่อปี และยังเป็นผลไม้มงคลในพิธีไหว้เจ้าและในเทศกาลต่างๆ ด้วย

เกษตรกรจึงอยากเชิญชวนให้หันมาปลูกชมพู่ทับทิมจันทร์กันมากขึ้น เนื่องจากยังเป็นที่ต้องการของตลาดเป็นอย่างมาก ซึ่งคุณประโยชน์ของชมพู่ทับทิมจันทร์ ช่วยในการบำรุงผิวพรรณ ป้องกันมะเร็งลำไส้ใหญ่ ทำให้หัวใจแข็งแรง มีวิตามินซีสูง ช่วยบำรุงกระดูกและฟัน ทำให้ร่างกายกระชุ่มกระชวย เพิ่มความสดชื่น แก้กระหายน้ำ เป็นยาระบายอ่อน ๆ ช่วยลดน้ำหนักตามธรรมชาติ เพราะเป็นผลไม้ฉ่ำน้ำ จึงทำให้รู้สึกอิ่มท้องเร็ว บำรุงสายตาและอื่น ๆ

ด้านนายปรีชา พรหมห้อง เกษตรกรผู้ปลูกชมพู่ทับทิมจันทร์รายใหญ่กล่าวว่า ตนปลูกทั้งหมด 20 ไร่ตอนนี้ปลูกเพิ่มอีก 5 ไร่ ทำให้แต่ละปีมีรายได้ไม่ต่ำกว่า 4 แสนบาทหรือเฉลี่ยไม่ต่ำกว่า 20,000 บาทต่อเดือน ซึ่งแต่ละปีมีลูก 4-5 รุ่น ราคาขายกิโลกรัมละ 70 บาท หากขายส่งกิโลกรัมละ 45-50 บาท ตอนนี้ยังมีไม่พอขาย จึงอยากให้เกษตรกรหันมาปลูกให้มากขึ้น เพราะตลาดมีความต้องการสูงและได้ราคาดี ส่วนการติดลูกอยู่ที่การจัดการ โดยที่อำเภอรัษฎามีที่นี่ที่เดียวที่หมู่ 10 ต.ควนเมา ที่อื่นไม่มีทำกันจริงจัง โดยมีเกษตรกรมาดูงานและสั่งต้นไปปลูกแต่ไม่จริงจัง ส่วนกิ่งพันธุ์ขายต้นละ 80 บาท เน้นคุณภาพเป็นลูกทั้งปี ไม่เหมือนท้องตลาดเพราะมาจากสวนโดยตรง

ซึ่งหากใครสนใจ สามารถติดต่อได้ที่หมายเลขโทรศัพท์ 095-2744487 หรือ FB สวนชินธรณ์ ชูรัตน์