ทุกคนรู้ไหมคะ ผัก 4 ชนิดนี้ อาจจะสร้างโทษมากกว่าประโยชน์อีกนะ ซึ่ ซึ่งวันนี้จันลั่นทุ่งจะมาหาคำตอบให้ทุกคนค่ะ ว่าทำไมถึงเป็นเช่นนั้น ในเมื่อผักเหล่านี้โดยทั่วไปที่ผ่านมานั้น เรากลับทานมันแบบดิบๆกันมาแล้วโดยตลอด…
1. กะหล่ำปลี เพราะหากเรากินแบบดิบในปริมาณที่มากจนเกินไป สารออกซาเลตที่อยู่ในผัก จะเข้าไปสะสมในร่างกาย ส่งผลให้เกิดคอหอยพอก เกิดนิ่วที่กรวยไต ทั้งนี้ในพืชตระกูลกะหล่ำยังมีสารกอยโตรเจนในปริมาณมาก ซึ่งสารตัวนี้จะไปยับยั้งการทำงานของต่อมฮอร์โมนไทรอยด์ คนที่เป็นโรคไทรอยด์จึงไม่ควรกินกะหล่ำปลีดิบนั่นเอง
2. ถั่วงอก ในตัวของถั่วงอกนั้น มักจะมีการปนเปื้อนแบคทีเรีย สารฟอกขาว โดยทั่วไปผู้ขายมักจะเอาถั่วงอกไปแช่ในสารตัวนี้ก่อนนำมาวางขาย เพื่อไม่ให้ถั่วงอกเน่า ทางที่ดี ก่อนนำมารับประทานเราควรล้างให้สะอาดหรือนำไปผ่านความร้อนจะดีกว่าค่ะ ทั้งนี้ คนตั้งครรภ์หรือเด็กเล็ก เลี่ยงทานดิบได้ก็ควรเลี่ยงนะคะ
3. ถั่วฟักยาว จะมีปริมาณไกลโคโปรตีน พร้อมทั้งเลคตินสูง สารชนิดนี้จะทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน และเกิดอาการท้องเสียได้ และในถั่วฟักยาว มักจะดูดซึมสารเคมียาฆ่าแมลงมากกว่าผักทั่วไป ทางที่ดีเราควรหักเป็นท่อนๆ แล้วเอาไปแช่น้ำทิ้งไว้ 5 นาทีก่อนทานสดๆ แต่โดยส่วนตัวแอดมินและคนรอบตัว ก็ยังมีการทานถั่วฟักยาวแบบดิบอยู่บ้าง แต่จะลดลงจากเดิม เป็นวันละ 1 ฝักต่อครั้งเท่านั้น นอกนั้นอาจจะเอาไปทำเป็นเมนูโดยผ่านความร้อน เช่น ผัดกระเพรา ทอดมัน เป็นต้น
4. หน่อไม้ มีสารไซยาไนด์สูง ส่งผลต่อระบบประสาท ไม่ควรกินดิบเกิน 1 ขีด ถ้าทานเข้าไปในปริมาณที่มากจะทำให้หายใจลำบาก หมดสติ เพราะฉะนั้นควรเอาต้มก่อนรับประทาน
